สดร. เผยความคืบหน้าโครงการภาคีฯ อวกาศไทย “ดาวเทียมสัญชาติไทย TSC-1” พร้อมเปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “ชาละวัน” ระบบประมวลผลข้อมูลวิจัยดาราศาสตร์
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยความคืบหน้าโครงการภาคีความร่วมมือพัฒนาความสามารถเทคโนโลยีอวกาศไทย เริ่มออกแบบระบบทัศนศาสตร์กล้องโทรทรรศน์อุปกรณ์หลักของดาวเทียม TSC-1 “ดาวเทียมวิจัยฝีมือคนไทยดวงแรก” พร้อมนำเสนอ “ชาละวัน” ระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง สำหรับประมวลผลข้อมูลมหาศาลของงานวิจัยดาราศาสตร์ แก่รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะ ในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของ สดร. ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา
ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า โครงการภาคีความร่วมมือพัฒนาความสามารถเทคโนโลยีอวกาศไทยเป็นความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) – สดร. สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) – สทอภ. และ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) – สซ. เพื่อสร้างดาวเทียมวิจัยขนาดเล็ก น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ออกแบบและสร้างโดยทีมวิศวกรและบุคลากรของ 3 หน่วยงาน เป็นการสร้างประสบการณ์การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศไทย
ดร. ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สดร. รับผิดชอบพัฒนาอุปกรณ์วิทยาศาสตร์สำหรับดาวเทียม สทอภ. รับผิดชอบดำเนินการการส่งดาวเทียมขึ้นไปสู่วงโคจร และ สซ. ออกแบบการทดสอบความทนทานของดาวเทียม ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการออกแบบระบบทัศนศาสตร์ของกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 ซม. เป็นอุปกรณ์หลักสำคัญของดาวเทียม ซึ่งต้องทนต่อแรงสั่นสะเทือนขณะขนส่งดาวเทียมออกไปนอกโลกและยังสามารถทำงานในอวกาศได้ และนอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์รอง ได้แก่ อุปกรณ์ตรวจวัดสภาพอวกาศ สำหรับศึกษาสภาวะ การเปลี่ยนแปลงสภาพอวกาศที่ใกล้กับชั้นบรรยากาศด้านบนสุดของโลกเราได้ คาดว่าจะสามารถส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศได้ภายในปี พ.ศ. 2567
โอกาสเดียวกันนี้ ดร. อุเทน แสวงวิทย์ นักวิจัยชำนาญการ สดร. ได้นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงและระบบศูนย์ข้อมูลงานวิจัยดาราศาสตร์ หรือ Big Data ของ สดร. เนื่องด้วยงานวิจัยดาราศาสตร์ต้องเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาล และใช้ความรู้การคำนวนเชิงสถิติมาช่วยประมวลผล จึงจำเป็นต้องมีระบบที่รองรับความซับซ้อนของข้อมูลต่างๆ เป็นที่มาของการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงชื่อ ชาละวัน (Chalawan Cluster) ช่วยให้การสืบค้นและการวิเคราะห์ต่างๆ ง่ายขึ้น
ระบบดังกล่าวนำมาใช้เก็บข้อมูลงานวิจัยดาราศาสตร์ภายในสถาบันฯ งานวิจัยของนักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ดำเนินงานวิจัยดาราศาสตร์ภายใต้การดูแลของนักวิจัยจาก สดร. รวมถึงงานวิจัยด้านวิทยาการข้อมูล วิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นต้น และจะเปิดให้นักวิจัยภายนอกและอาจารย์มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลสมรรถนะสูงของ สดร. เพื่อดำเนินงานวิจัยด้านดาราศาสตร์และสาขาที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ดร. อุเทน กล่าวเพิ่มเติมว่า สดร. มีแผนพัฒนาขีดความสามารถการประมวลผลข้อมูลให้มากขึ้น การพัฒนาดังกล่าวนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อนักวิจัยและนักศึกษาแล้ว ยังช่วยยกระดับศักยภาพของบุคลากรที่พัฒนาระบบ ก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ต่อยอดไปในสาขาอื่น ๆ โดยเฉพาะระบบวิเคราะห์ข้อมูลในภาคธุรกิจ เป็นต้น
ด้าน ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวสรุปถึงการติดตาม ความคืบหน้าในวันนี้ว่า ดาวเทียมในโครงการภาคีความร่วมมือพัฒนาความสามารถเทคโนโลยีอวกาศไทย นอกจากจะเป็นดาวเทียมดวงแรกที่คนไทยสร้างเองแล้ว ยังเป็นโครงการที่ช่วยขยายขีดความสามารถของวิศวกรไทย และเพิ่มความเชื่อมั่นในระดับโลก ถือเป็นอีกโครงการที่น่าติดตาม และจะนำมาซึ่งประโยชน์ ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจในอนาคตด้วย
ดร.สุวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาระบบประมวลผลข้อมูลเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจ เป็นการพัฒนาที่ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ สามารถประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกแบบหลักสูตรวิทยาการข้อมูล ซึ่งจะเป็นสาขาที่สำคัญอย่างยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร ต่อไปอาจผลักดันหลักสูตรด้านนี้ให้เกิดกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ เพื่อผลิตนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ซึ่งจะเป็นที่ต้องการของตลาดในอนาคต นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยต่อไป
เครดิตภาพ : สถาบันดาราศาสตร์แห่งชาติ
เรื่องมาใหม่
- AIS พร้อมรับมือพายุดีเปรสชัน ผนึกกำลังทีมวิศวกร 5 ภูมิภาค ดูแลเครือข่ายมือถือและเน็ตบ้านอย่างเต็มที่
- FIN มช. จัดงาน “เจียงใหม่ ฟู้ดไฮ ฟู้ดเฟส” ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร งมอบอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภค
- I LOVE FLOWER FARM เตรียมเปิดทุ่งดอกไม้ 4 โซน รับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น 12 ต.ค. 66 นี้
- AIS 5G ขานรับนโยบาย “ฟรีวีซ่าจีน” ควง Trip.com Group แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวอันดับ 1 ในจีน กับ AIS LUCKY SIM CARD
- เปิดสัญจรได้แล้ว สะพานข้ามบ้านแม่ทะลุ จำกัดน้ำหนักไม่เกิน 10 ตัน