ผู้ว่าฯ เชียงใหม่เตือน 15 เม.ย.นี้ อากาศจะแย่หมอกควันจะเกินมาตรฐาน ให้ดูแลสุขภาพ

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตือนประชาชนกลุ่มเสี่ยงดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ คาดว่าในวันพรุ่งนี้ค่าคุณภาพอากาศจะเกินมาตรฐาน โดยขอให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักและเป็นเวลานานๆ ขณะเดียวกัน ได้กำชับให้ทุกอำเภอติดตามสถานการณ์หมอกควันอย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์

วันที่ (14 เม.ย. 61) ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 ณ เวลา 09.00 น. เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ที่สถานีวัดตำบลช้างเผือก 99 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงสุดอยู่ที่สถานีวัดตำหนักภูพิงค์ 104 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 วัดที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ 166 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีดัชนีคุณภาพอากาศไม่ดี ซึ่งสูงสุดวัดได้ที่สถานีโรงพยาบาลไชยปราการ 211 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศไม่ดีอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้คาดการณ์ว่าค่าคุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่จะมีแนวโน้มเกินค่ามาตรฐานภายในวันพรุ่งนี้ (15 เม.ย.61) โดยประเมินจากสถานการณ์หมอกควันในตัวเมืองเชียงใหม่ ถูกปกคลุมด้วยหมอกควัน ไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพจากระยะไกลได้ตามปกติ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา พบจุดความร้อนจำนวนมากทางภาคเหนือ ขณะเดียวกัน จะมีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมทางทิศใต้พัดเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้กลุ่มควันไฟขนาดใหญ่ได้ลอยมาจากประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดข้างเคียง ซึ่งพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่มีลักษณะภูมิศาสตร์เป็นแอ่งกระทะ

จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนดูแลสุขภาพในช่วงสภาวะหมอกควัน โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยขอให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกอาคารที่ใช้แรงหนักและเป็นเวลานานๆ หากมีความจำเป็นควรใส่หน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นควันขนาดเล็กมากได้ เช่น หน้ากากชนิด N95 หรือ FFP2 ส่วนหน้ากากอนามัยธรรมดาไม่สามารถป้องกันฝุ่นละเอียดเข้าสู่ร่างกายได้ ตลอดจน ควรปิดประตูหน้าต่างบ้านหรืออาคารให้สนิท ไม่ให้อากาศที่มีควันพิษภายนอกเข้าภายในบ้าน หรือใช้เครื่องฟอกอากาศชนิดมีแผ่นกรอง HEPA ที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดห้อง

อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ทุกอำเภอติดตามและบูรณาการการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันกับหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นเทศกาลสงกรานต์ แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง สอดส่อง และห้ามปรามผู้ที่จุดไฟเผาเศษวัสดุทางการเกษตร โดยเฉพาะตามเขตรอยต่อระหว่างชุมชนกับเขตป่าไม้ หากพบมีการลักลอบเผาให้ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดตลอดช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาดไปจนถึงวันที่ 20 เมษายนนี้