จังหวัดเชียงใหม่ เตือนประชาชนโดยเฉพาะอำเภอจอมทองและกัลยาณิวัฒนา ดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากจะมีกลุ่มควันขนาดใหญ่พัดเข้ามาในพื้นที่ จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพเป็นวงกว้าง
เมื่อวันที่ (23 เมษายน 2561) นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งเตือนประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอจอมทองและอำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งจากการวิเคราะห์สถานการณ์และประเมินจากทิศทางลม ที่จะพัดพาเอาหมอกควันลอยมาจากจังหวัดข้างเคียง ประกอบกับอำเภอทางโซนใต้มีการเผาเพิ่มขึ้น หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาห้ามเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิดอย่างเด็ดขาด เพื่อเตรียมพื้นที่ทางการเกษตรในช่วงนี้
โดยในวันนี้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 10) ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีค่าอยู่ที่ 152 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอำเภอแม่แจ่ม มีค่าอยู่ที่ 143 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงเกินค่ามาตรฐาน (120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ซึ่งจะเป็นผลให้ทั้งอำเภอจอมทองและอำเภอกัลยาณิวัฒนา มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานอย่างรวดเร็ว และจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงหรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ให้ดูแลสุขภาพในช่วงสภาวะหมอกควันเป็นพิเศษ รวมทั้งประชาชนทั่วไป สามารถป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากคุณภาพอากาศ โดยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดพอหมาดทับด้วยหน้ากากอนามัยหรือถ้ามีหน้ากากอนามัยแบบ N95 สวมป้องกันฝุ่นจะดีขนาด เมื่อต้องไปสัมผัสกับอากาศที่มีหมอกควันในที่โล่ง และรีบเข้าในอาคารที่มีเครื่องปรับอากาศ รดน้ำต้นไม้ ถนน พื้นดินเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นส่งผลให้ขนาดฝุ่นใหญ่ขึ้นตกลงสู่พื้นปริมาณฝุ่นจะลดลง
งดการเผาทุกชนิดโดยเฉพาะตอนกลางคืนและตอนเช้าเพราะความกดอากาศสูงจะกดเอาฝุ่นควันลอยอยู่ระดับทางเดินหายใจ สำหรับ คนที่เดินทางขับรถมอเตอร์ไซค์ ขี่จักรยานควรสวมแว่นตาหรือสวมหมวกกันน็อค ป้องกันฝุ่นเข้าตา เพราะอาจจะทำให้เกิดโรคผิวหนังจากการสัมผัสฝุ่น เช่น ผื่นคัน ตาอักเสบ เป็นต้น
ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้มีการจัดเตรียมมาตรการควบคุมการเผาในแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนนี้ เป็นต้นไป โดยศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งให้ทุกอำเภอแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบถึงตารางเวลาการบริหารจัดการเชื้อเพลิงและชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่ทราบและปฏิบัติตามช่วงเวลาอย่างเคร่งครัด
หากบุคคลใดมีความจำเป็นต้องเข้าไปทำการเกษตรกรรมในพื้นที่ที่เตรียมไว้แล้ว หรือเข้าไปลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตรกรรม ขอให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่ทราบ เพื่ออนุญาตและร่วมกันควบคุม เฝ้าระวัง ไม่ให้เกิดไฟจากการลดปริมาณเชื้อเพลิงในแปลงเกษตรกรรมลุกลาม ตามตารางเวลาการบริหารจัดการเชื้อเพลิงของแต่ละอำเภอ เพื่อให้การบริหารจัดการเชื้อเพลิงในแต่ละพื้นที่เป็นไปตามเงื่อนไขของจังหวัดด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพที่สุด รวมทั้ง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
เรื่องมาใหม่
- ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’ เปิดประตูสู่ภาคเหนือ เยือนเชียงใหม่สร้างความมั่นใจจัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย
- รวมไทยสร้างชาติแม่ฮ่องสอน สรรหาส่งชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส.แม่ฮ่องสอน
- แม่ลาน้อย สืบสานวัฒนธรรมชนเผ่าลเวือะ ครั้งที่ 2 พัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนท้องถิ่น
- ยึด 4 แสนเม็ด ทหารผาเมือง ปะทะเดือด แก๊งค้ายชายแดนแม่อายเชียงใหม่
- สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 แม่ฮ่องสอน ปล่อยแถวดับไฟป่า ลดจุดความร้อน ป้องกัน PM 2.5 สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน