ขนส่งเชียงใหม่เปิดตัวรถ Taxi OK มิติใหม่แท็กซี่ไทย ติดแอพพลิเคชั่นสร้างความปลอดภัย มีระบบถ่ายภาพในรถและปุ่มกดฉุกเฉินด้วย เชียงใหม่นำร่อง 20 คัน ส่วนกรุงเทพฯ คาดว่าจะเริ่มได้เยอะถึง 3 หมื่นคันในปีนี้ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมเพิ่มทางเลือกเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่น Taxi OK เชื่อมั่นความสำเร็จ!!! ด้วยจุดเด่น เข้าใจเข้าถึงความต้องการของผู้โดยสาร สร้างความมั่นใจ อุ่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง ร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของแท็กซี่ไทย Taxi OK ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ช่วงเช้าวันที่ (10 ก.พ.61) บริเวณหน้าศูนย์ประชุมนานาชาติเอ็มเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรส นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานในการเปิดตัว “Taxi OK มิติใหม่แท็กซี่ไทย” ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมเพิ่มทางเลือกเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่น Taxi OK เน้นจุดเด่นที่ความเข้าใจ ความต้องการของผู้โดยสารอย่างลึกซึ้ง แอพพลิเคชั่นใช้งานได้ง่าย มั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
พร้อมสาธิตวิธีเรียกใช้บริการรถ Taxi OK ผ่านแอพพลิเคชั่นเป็นปฐมฤกษ์ โดยมี นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ให้การสนับสนุนเพื่อให้เกิดมิติใหม่ของการให้บริการแท็กซี่ไทยอย่างเป็นรูปธรรม
นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อให้เกิดการพัฒนารูปแบบการให้บริการแท็กซี่มิติใหม่อย่างเป็นรูปธรรม กรมการขนส่งทางบกได้เดินหน้าโครงการ “Taxi OK มิติใหม่แท็กซี่ไทย” ซึ่งถือเป็นการยกระดับการให้บริการรถแท็กซี่ไทยทั้งระบบเป็นครั้งแรก ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับ ดูแล และควบคุมความปลอดภัยจากภาครัฐ เพิ่มศักยภาพการเข้าถึงบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัล สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ขับรถแท็กซี่
ทั้งนี้ Taxi OK “แตกต่าง” จากแท็กซี่มิเตอร์ในปัจจุบัน เนื่องจากพัฒนาขึ้นโดยมุ่งไปยังสิ่งที่ผู้โดยสารต้องการอย่างแท้จริง เช่น การใช้เทคโนโลยี GPS Tracking ที่มีระบบยืนยันตัวตนผู้ขับรถ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกความปลอดภัย กล้องบันทึกภาพในรถแบบ Snap Shot ปุ่มฉุกเฉิน SOS จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง และมีความแตกต่างชัดเจนด้วยแอพพลิเคชั่น Taxi OK
สำหรับการเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ได้สะดวกรวดเร็วผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของผู้โดยสาร ซึ่งจะเข้ามาแก้ไขความไม่สะดวกสบายด้านบริการแท็กซี่ที่มีอยู่ในปัจจุบันจากปัญหาต่างๆ เช่น ผู้ขับรถเลือกรับผู้โดยสาร ปฏิเสธการให้บริการทั้งที่ยังเปิดไฟสถานะว่าง ความเที่ยงตรงของมาตรค่าโดยสาร หรือการคิดค่าโดยสารเกินจริงจากอัตราที่ปรากฏบนมาตรค่าโดยสาร เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพให้ผู้ขับรถแท็กซี่ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงผู้โดยสารได้มากยิ่งขึ้น
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า แอพพลิเคชั่น Taxi OK พัฒนาขึ้นบนแนวคิดการใช้งานที่ง่ายแต่ครอบคลุมทุกความต้องการ ตอบโจทย์ทุกความปลอดภัย เข้าถึงได้สะดวก เช่น การสแกนคิวอาร์โค้ด ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก App Store, Google Play และ Window Phone เพียงค้นหาคำว่า “Taxi OK” และติดตั้งแอพพลิเคชั่น
พร้อมใช้งานเพียงลงทะเบียนและกรอกรายละเอียดบัญชีผู้ใช้ จากนั้นจองรถ ระบุสถานที่ต้นทาง-ปลายทาง เลือกการใช้งานรถมาตรฐาน (Taxi OK) หรือ รถวีไอพี (Taxi VIP) ทั้งนี้เมื่อมีรถแท็กซี่ตอบรับงานแล้วแอพพลิเคชั่นจะแสดงสถานะแท็กซี่กำลังเดินทางไปรับ โดยจะแสดงชื่อ-สกุล หมายเลขทะเบียนรถ และเบอร์ติดต่อของผู้ขับรถและขณะอยู่บนรถแท็กซี่ผู้โดยสารสามารถแจ้งผู้อื่นให้ทราบตำแหน่งพิกัดได้ตลอดการเดินทางด้วยปุ่ม “ติดตามแท็กซี่”
กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ในรถผู้โดยสารสามารถกดปุ่มฉุกเฉินภายในรถแท็กซี่ หรือ กดขอความช่วยเหลือผ่านแอพพลิเคชั่นได้เช่นกัน ซึ่งระบบจะส่งพิกัดตำแหน่ง และข้อมูลผู้แจ้ง แบบ Real-time ไปยังศูนย์บริการสื่อสารรถแท็กซี่ เชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการรถแท็กซี่ของกรมการขนส่งทางบก (DLT Taxi Center) และเพิ่มความสามารถในการดูแลผู้โดยสารเชื่อมข้อมูลกับแอพพลิเคชั่น Police ilertu ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทุกข้อมูลสำคัญที่จำเป็นจะไปปรากฏอยู่ในระบบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในท้องที่เกิดเหตุทันที เพื่อให้เข้าช่วยเหลือโดยตรง
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า การเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเปิดกว้างให้เรียกรถแท็กซี่ในโครงการได้ทุกคัน รวมถึงรถแท็กซี่ปัจจุบันที่ยังคงเหลืออายุการให้บริการ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกให้สิทธิในการเข้าร่วมโครงการในภาคสมัครใจ หลังจากติดตั้ง GPS Tracking พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ เข้าเป็นสมาชิกในศูนย์บริการสื่อสารรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) และทดสอบการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก สามารถเชื่อมโยงกับระบบรับงานผ่านแอพพลิเคชั่นและจะได้รับสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์โครงการ Taxi OK ติดหน้ารถ
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้พื้นที่เป็นจุดจอดรอของรถ Taxi OK ในแหล่งชุมชนที่ประชาชนนิยมใช้บริการรถแท็กซี่เป็นจำนวนมาก อาทิ จุดจอดกรมการขนส่งทางบก จุดจอดหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการเข้าถึงผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
สำหรับแท็กซี่ในปัจจุบันที่ยังไม่พร้อมเข้าร่วมโครงการในขณะนี้ ยังคงเป็นรูปแบบการให้บริการสาธารณะที่ถูกกฎหมาย สามารถให้บริการประชาชนได้ไปตลอดจนกว่าจะหมดอายุการใช้งานรถ ภายใต้มาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยมีมาตรการเข้มงวดกวดขันและลงโทษสูงสุดเด็ดขาดทุกกรณีความผิด เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งแท็กซี่มิเตอร์และ Taxi OK
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับจังหวัดเชียงใหม่การที่ Taxi OK เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมในวันนี้ โดยบริษัท ออลไทยแท็กซี่ จำกัด ซึ่งจะนำร่องก่อนจำนวน 20 คัน ส่วนในกรุงเทพฯ คาดว่าน่าจะสูงถึง 3 หมื่นคันในปีนี้ เพราะกำหนดเรื่องของมาตรฐานรถไว้ 9 ปี หากครบกำหนดก็ต้องเข้าสู่ระบบรถใหม่ แต่ก็เป็นภาคสมัครใจใครจะเข้าหรือไม่ก็ได้ แต่รถใหม่ที่จดทะเบียน จะเป็นภาคบังคับทันที
นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการแท็กซี่มิเตอร์รายอื่นๆ ในเชียงใหม่ เช่น สหกรณ์แท็กซี่เวียงพิงค์ และสหกรณ์นครลานนาเดินรถจำกัด ก็จะได้นำรถ Taxi ที่มีอยู่เดิมมาปรับปรุงยกระดับให้เป็น Taxi OK ในโอกาสต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรถแท็กซี่ซึ่งถือเป็น Key Man เป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญ ซึ่งจะขับเคลื่อนระบบแท็กซี่ไทยภายใต้มาตรฐานคุณภาพการให้บริการ Taxi OK ให้กลายเป็นความสำเร็จต่อเนื่อง ยั่งยืน จนนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการให้บริการรถสาธารณะของประเทศของประชาชน
สภาพเศรษฐกิจสังคมและประเทศในภาพรวม และจะเป็นการยกระดับการประกอบอาชีพของผู้ขับรถแท็กซี่ นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการ สหกรณ์แท็กซี่ ศูนย์บริการสื่อสารรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) ผู้ให้บริการ GPS ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณ ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ที่ร่วมสนับสนุนให้เกิดมิติใหม่ของการให้บริการแท็กซี่ไทย ที่ตรงใจผู้โดยสารในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรม
เรื่องมาใหม่
- SUN และ EXE มอบอาหารช่วยผู้ลี้ภัยชายแดนเมียนมา
- เอไอเอส จับมือ กสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม
- อปท.ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน สร้างความรู้ความเข้าใจแนวทางปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรับเงิน และการบริหารงานพัสดุ
- กั่นตอ (ขอขมา) รดน้ำดำหัวกำนันตำบลผาบ่อง ผู้นำชุมชน ทั้ง 12 หมู่บ้าน ของตำบลผาบ่อง เข้ากั่นตอ
- แม่สะเรียง ใช้วีธีไฟชนไฟแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง