วันพฤหัสบดี, 13 กุมภาพันธ์ 2568

เชียงใหม่ กำนัน ต.สันผีเสื้อ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ชี้แจงหลังถูกประธานสภาฯ ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานเจ็บ

Social Share

เชียงใหม่ กำนัน ต.สันผีเสื้อ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ชี้แจงหลังถูกประธานสภาฯ ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานเจ็บ

จากเหตุการณ์นายภูวรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาวตำบลสันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้ถูกประธานสภาตำบลฯ แห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เตะเข้าใบหน้าจนต้องเข้ารับการผ่าตัด เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงพลบค่ำวันที่ 24 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา กระทั่งผู้บาดเจ็บได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางประธานสภาฯ คู่กรณีที่ทำร้ายร่างกาย และเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกพลาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องว่าจะให้การช่วยเหลือ รวมทั้งบ้าน สจ.ชื่อดังรายหนึ่งที่เป็นจุดเกิดเหตุ และเกรงว่าอาจจะทำให้ได้รับความไม่เป็นธรรม

ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. 67 นายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ พร้อมด้วยกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 3, 4, 5 และ 6 ได้เดินทางมาและขอชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ถูกพาดพิงจนเกิดความเสียหาย

นายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ กล่าวว่า จากกรณีเหตุทำร้ายร่างกายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เหตุการณ์เกิดในช่วงผลบค่ำ ซึ่งตนได้รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นที่บ้านร้องอ้อ ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตนจึงได้ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองนั้น เพื่อให้ไปดูเหตุการณ์ เพราะอยู่ใกล้ที่สุด แต่ทางผู้ใหญ่บ้านติดธุระจึงได้ให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเดินทางไปตรวจสอบแทน จากนั้นตนก็ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อไปสมทบ และผมได้เดินทางตามไปพร้อมกับสารวัตรกำนัน เดินประมาณ 15 นาที ตามไปตรวจสอบร่วมด้วย แต่พอไปถึงก็ไม่พบผู้บาดเจ็บแล้ว และทราบว่าได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อไปทำการรักษา

จากาการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีประธานสภาเทศบาลตำบล ที่เป็นคู่กรณีของผู้บาดเจ็บ ก็ให้ข้อมูลว่า ได้มาพบกันและพูดกวนโทสะกัน ด้วยความโมโหก็ด้วยอารมณ์พลั้งพลาดจึงได้เท้าเตะไป 1 ครั้ง ซึ่งขณะนั้นไม่รู้ว่าบาดเจ็บสาเหตุแค่ไหน แต่ทั้งสองฝ่ายรู้จักกันอยู่แล้ว ต่อมาตนจึงได้แนะนำให้ประธานสภาฯ ที่เป็นคู่กรณี ติดตามไปยังโรงพยาบาล เพื่อตรวจเยี่ยมอาการและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหลังเกิดเหตุ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะทั้งคู่ก็รู้จักกันมานานและทำงานร่วมกันมา ในวันนั้นทางประธานสภาฯ ก็ยังได้เอากระเช้า พร้อมกับเงินจำนวน 5,000 บาท ไปเยี่ยมด้วย

หลังเกิดเหตุทางผู้บาดเจ็บก็ได้ติดต่อมาและขอปรึกษากับทางผมตลอด ว่าควรจะทำอย่างไรบ้าง ไปพบเจอดีหรือไม่ กระทั่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงมาพบเจอเพื่อเจรจากันที่บ้านของผู้บาดเจ็บ โดยขอให้ทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ของผู้บาดเจ็บไปเป็นสักขีพยาน และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงไปร่วมด้วย แต่ไปถึงก็เพียงแค่นั่งฟังทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงกัน และไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร เพื่อให้ทั้งสองคนเจรจากันเอง จากตอนแรกได้มีการเรียกร้องถึง 100,000 บาท แต่หลังจากเจรจา และด้วยความเห็นใจกัน และทั้งคู่ก็รู้จักกันมานาน จึงเหลือเพียง 30,000 บาท เป็นการช่วยเหลือ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเหตุทะเลาะวิวาทของคนเพียงแค่สองคน ไม่ได้เกี่ยวกับทางฝ่ายปกครอง เหมือนกับที่เป็นข่าวออกไปว่า ฝ่ายปกครองลำเอียงไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หลังจากมีข่าวออกไปก็ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะชาวบ้านที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงก็มาต่อว่าทางฝ่ายปกครองจนเกิดความเสียหาย แล้วได้รับการดูถูก เหยียดหยามจากผู้ที่ไม่เข้าใจ และคิดว่าฝ่ายปกครองไม่เอาไหน ทั้งที่ทางฝ่ายปกครองของเทศบาลตำบลสันผีเสื้อทำงานอย่างหนักและไม่เคยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และวางตัวเป็นกลางมาโดยตลอด และวันที่เกิดเหตุก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุ เพียงแต่ไปตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังได้รับแจ้งเท่านั้น

สำหรับฝ่ายผู้บาดเจ็บที่ไปแจ้งความและจะดำเนินการกับฝ่ายผู้ก่อเหตุนั้น ก็เป็นสิทธิส่วนตัวของเขา ทางฝ่ายปกครองไม่ได้แนะนำหรือให้ดำเนินการอย่างไร ขึ้นอยู่กับทางผู้บาดเจ็บกับคู่กรณี

ขณะเดียวกันสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและถูกโยงไปถึงบ้านของ สจ.รายหนึ่ง ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นเพียงสำนักงานของลูกชาย สจ.รายดังกล่าว ช่วงเกิดเหตุทั้งตัว สจ. และลูกชายไม่ได้อยู่ด้วย เพียงแต่เป็นสำนักงาน และบุคคลทั้งสองคนก็ทำงานร่วมกับลูกชายท่าน สจ.มาตลอด แต่การที่มีสื่อนำไปเสนอว่าอาจจะเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุก็ได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วย