หน่วยซีล ร่วมกู้เรือจมน้ำโขง ดำน้ำผูกสลิงเพื่อกู้เรือ คาดการณ์ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

11 ส.ค.63 : พายุฝนกระหน่ำรุนแรง ทำให้เรือท่องเที่ยวของแม่โขงเดลต้าที่จอดเทียบท่าอยู่ในแม่น้ำโขง ชายแดนไทย-สปป.ลาว บริเวณบ้านป่าสักหางเวียง 3 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ถูกน้ำฝนและกระแสน้ำที่รุนแรง ทำให้เรือจม โดยนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มอบให้ นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ เบื้องต้นได้ใช้วิธีการชักชาก และใช้รถเครนทำการยกเรือ เพื่อให้เรือที่พลิกคว่ำกลับมาอยู่ในท่าปกติ แต่มีเพียงส่วนด้านบนของเรือที่พ้นผิวน้ำขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนตัวเรือยังจมอยู่ใต้น้ำ

ล่าสุดในวันนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยซีล ประจำหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ได้ลงดำน้ำเพื่อผูกลวดสลิงเข้ากับท้ายเรือเพื่อยกท้ายเรือขึ้นด้วยรถเครน จากนั้นได้ใช้เครื่องสูบน้ำเข้าไปสูบน้ำออกจากเรือ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารกองกำลังผาเมือง ตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน การท่าเรือแห่งประเทศไทย กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 32 รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้ระดมกำลังมาช่วยกัน จนสามารถกู้เรือได้สำเร็จ

น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเจ้าของเรือดังกล่าว เปิดเผยว่า เรือแม่โขงเดลต้าเป็นเรือท่องเที่ยวขนาด 107 ตันกรอส ยาว 40 เมตร กว้าง 5.50 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 120 ที่นั่ง จดทะเบียนเป็นเรือท่องเที่ยวแม่น้ำโขงได้นานประมาณ 10 ปี มีมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาทและเมื่อนำมาปรับเพื่อรองรับการท่องเที่ยวและตกแต่งภายในรวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 50 ล้านบาท โดยเป็นเรือท่องเที่ยวของบริษัทแม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด ร่วมกับเรือกาสะลอง 1 และกาสะลอง 2 ที่เป็นเรือสัญชาติไทยทั้งหมด รวม 3 ลำ ที่นำเที่ยวในแม่น้ำโขง และจัดเรือท่องเที่ยวไปถึงประเทศจีนตอนใต้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ คงต้องมีการตรวจเช็คและซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายให้กลับมามีสภาพที่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ก่อน ถึงจะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอีกครั้ง แต่จะทันช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้หรือไม่ ก็คงต้องรอดูเรื่องของความเสียหายและการซ่อมแซมก่อน