วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

ตำรวจภาค 5 จับหนุ่มแสบ จบ ม.3 อาศัยศึกษาผ่านออนไลน์จากยูทูป แฮกเฟสบุ๊ค หลอกเหยื่อหลงกลสูญเงินหลายแสนบาท

03 ก.ค. 2019
1431
Social Share

ตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าได้ถูกคนร้ายลอบเข้าเฟซบุ๊คของตนเอง จากนั้นได้นำเฟซบุ๊คที่ลักลอบเข้าดังกล่าวไปหลอกลวงเพื่อนในเฟซบุ๊คขอให้ส่งเลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อใช้ในการยืนยันเข้าแอปพลิเคชั่นทางการเงิน เนื่องจากผู้ต้องหาหลอกลวงว่าได้ลบแอปพลิเคชั่นทางการเงินนั้นออก และต้องการผู้มายืนยันกับแอปพลิเคชั่นดังกล่าวเพื่อสมัครเข้าใช้อีกครั้งหนึ่ง ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเพื่อนของตนทางเฟซบุ๊คจริง จึงให้รหัสดังกล่าวกับคนร้าย ต่อมาทราบว่ามีการถอนเงินจากบัญชี โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนถอนเงินออกจากบัญชีของตนจึงมาแจ้งให้ตำรวจภูธรภาค 5 ติดตามหาคนร้าย รวมผู้เสียหายประมาณ 22 ราย เป็นเงินประมาณ 415,520 บาท

ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 ได้สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 5 และกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ได้ทำการสืบสวนได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานฐานจนทราบว่าคนร้ายในคดีนี้คือ นายณัฐกรหรือตี๋ นิ่มเรือง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211 ซอยเพชรเกษม 28 แยก 22 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จึงได้ขออนุมัติหมายจับตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ 408/2568 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 คดีของสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และ เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ

ต่อมาวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรีที่ 134/2562 เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 11/339 หมู่ 6 ซอย 50(หมู่บ้านสุขสันต์ 6)ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าจับกุมตัวนายณัฐกรหรือตี๋ นิ่มเรือง พร้อมทำการตรวจยึดของกลางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและเงินสดจำนวน 50,000 บาท โดยนายณัฐกรหรือตี๋ นิ่มเรือง ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง ซึ่งตนได้เรียน กศน.จบเพียงแค่มัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่การก่อเหตุนั้นอาศัยศึกษาดูจากช่องในยูทูป และนำมาทดลองปรากฏว่าทำได้ จึงได้เริ่มก่อเหตุ

มีพฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อประมาณปี 2561 นายณัฐกรฯได้เรียนรู้วิธีการดักเอารหัสผ่านโปรแกรมเฟซบุ๊คจากอินเตอร์เน็ต โดยมีเว็บไซต์ที่สามารถสร้างลิ้งค์ (Url) ที่มีหน้าต่างคล้ายกับหน้าต่างกรอกรหัสผ่านของโปรแกรมเฟซบุ๊ค โดยเมื่อส่งลิ้งค์ (Url) นี้ให้กับผู้ใดแล้ว จะได้รับข้อมูลทุกอย่างที่ผู้นั้นกรอกลงไปในหน้าต่างดังกล่าว

ผู้ต้องหาจึงได้มีความคิดที่จะใช้วิธีการดังกล่าวในการหาเงิน โดยได้สร้างเฟซบุ๊คปลอมขึ้นมาจำนวน 1 อันจากนั้นได้เพิ่มเพื่อนผู้ใช้งานคนอื่นๆแล้วลองส่งลิ้งค์(Url)ที่สร้างไปให้เพือนที่เพิ่มไว้ โดยอ้างด้วยเหตุผลว่ามีคนก๊อปปี้เฟซบุ๊คบ้างหรือมีภาพหลุดของผู้ใช้งานคนนั้นหลุดอยู่ในอินเตอร์เน็ตบ้าง จากนั้นผู้ที่หลงเชื่อกรอกข้อมูลลงไป ก็จะได้รับชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของผู้ใช้งานคนดังกล่าว ทำให้สามารถลงชื่อเข้าใช้ (Login) เข้าสู่ระบบของผู้ใช้งานหรือเหยื่อ คนนั้นๆ ได้

จากนั้นนายณัฐกรฯ ก็จะเข้าไปอ่านข้อความการสนทนาของผู้ใช้งานคนดังกล่าว โดยจะเน้นที่คนที่คิดว่าเป็นคนสนิทของเหยื่อ โดยในอันดับแรกต้องการบัญชีธนาคารที่จะใช้รับโอนเงินของเหยื่อ จึงใช้งานเฟซบุ๊คของเหยื่อที่ได้รหัสมา ทักไปหาคนอื่น โดยอ้างว่า ขอความช่วยเหลือให้ช่วยยืนยันข้อมูลในการเข้าใช้งานแอปพลิเคชั่นทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ เนื่องจากพลาดลบแอปพลิเคชั่นดังกล่าวไปแล้วไม่สามารถเข้าใช้งานได้ โดยให้เหยื่อ ส่งข้อมูลมาให้ เช่น ขอหมายเลขหน้าบัตร ATM หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด รหัสผ่านแอพพลิเคชั่น และเบอร์โทร เมื่อได้ข้อมูลตามที่แจ้งไปข้างต้นแล้ว ก็จะสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปสมัครใช้งานแอพพลิเคชั่นธุรกรรมการเงินออนไลน์ในโทรศัพท์ของผู้ต้องหาได้โดยที่ไม่ต้องมีบัญชีของเหยื่อ

อีกทั้งผู้ต้องหายังสามารถถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าวได้โดยไม่ต้องใช้บัตร ATM แต่ใช้การใช้รหัสรับเงินสดที่สร้างจากแอพพลิเคชั่นทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์

ต่อมาเมื่อได้บัญชีที่ใช้เพื่อรับเงินจากเหยื่อแล้ว ผู้ต้องหาก็จะทักไปหาเพื่อนคนอื่นๆในเฟซบุ๊คของเหยื่อแล้วหลอกลวงเหยื่อว่า มีความเดือนร้อนต้องการยืมเงิน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินมาก็จะให้โอนเงินเข้าบัญชีของเหยื่อที่ได้เตรียมไว้แล้ว หลังจากนั้นผู้ต้องหาก็จะถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าว นำไปกิน เที่ยว ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอเตือนผู้ที่ใช้โปรแกรมเฟซบุ๊คให้ระมัดระวังคนร้ายลักลอบเข้าถึงโปรแกรมเฟซบุ๊คของตนเองดังนี้
1.หากมีเพื่อนหรือคนสนิททักมาขอยืมเงินหรือขอข้อมูลส่วนบุคคล ให้โทรศัพท์กลับไปหาผู้นั้นเพื่อยืนยันการขอข้อมูลดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
2.ในการเข้าไปดูในเว็บลิงค์ต่างๆที่มีผู้ส่งมาให้ถ้ามีการต้องกรอกรหัสผ่านเพื่อเข้าโปรแกรมนั้นอีกครั้งหนึ่งหากไม่แน่ใจว่าเป็นเว็บลิงค์ที่ปลอดภัยหรือไม่ ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปใช้บริการเว็บไซด์ดังกล่าว
3.รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการเข้าสู่ระบบที่ไม่รู้จัก ในระบบความปลอดภัยของโปรแกรมเฟซบุ๊ค
4.ใช้การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น โดยเข้าไปตั้งค่าในระบบรักษาความปลอดภัยของโปรแกรมเฟซบุ๊ค

Cr. ตำรวจภูธรภาค 5