วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2564 ที่ศูนย์กลางขนส่งมวลชนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดตัวรถไฟฟ้าขนส่งมวชนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่นใหม่ พร้อมพาคณะผู้บริหาร และสื่อมวลชนนั่งรถไฟฟ้าเยี่ยมชมรอบมหาวิทยาลัย สำหรับรถรุ่นไฟฟ้ารุ่นใหม่นั้นได้ใช้ พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เป็นแบบลิเทียมไอออนฟอสเฟต สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ในช่วงเวลา 07.00 น.- 22.00 น. ตลอดทั้ง 7 วันต่อสัปดาห์
ในปีที่ผ่านมามีผู้ใช้งานสะสมกว่า 5,700,000 คน รวมระยะทางกว่า 5.8 ล้านกิโลเมตร มีส่วนช่วยลดบริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1,650 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับในปีงบประมาณ 2563 ศูนย์บริหารจัดการเมืองอัจฉริยะมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อจัดหารถไฟฟ้ารุ่นใหม่จำนวน 40 คัน มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท รถไฟฟ้ารุ่นใหม่นั้นมีห้องโดยสารแบบปิด โดยมีหน้าต่างที่เปิด – ปิดได้ และภายในมีพัดลมไว้ให้บริการ สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 16 คน การนับจำนวนผู้โดยสารด้วยวิธี Image Processing ร่วมกับ AI และผู้ใช้บริการสามารถติดตามตำแหน่งรถ เส้นทางเดินรถแต่ละสาย และจำนวนผู้โดยสารในรถแต่ละคันได้จากแอปพลิเคชัน CMU MOBILE แบบ Realtime ด้านหน้ามีป้าย LED บอกสายรถแต่ละคัน มองเห็นได้ง่ายแม้ในเวลากลางคืน มีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในทุกคัน เช่นกล้องวงจรปิดที่มองเห็นผู้โดยสารทุกที่นั่ง รวมถึงภาพจากด้านหน้าและด้านหลังของรถ มีจอแสดงภาพให้พนักงานขับรถดูได้ตลอดเวลา มีจอภาพสำหรับการแสดงข้อมูลการให้บริการและสื่อประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังมีถังดับเพลิงและค้อนทุบกระจกเตรียมไว้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินด้วย
เรื่องมาใหม่
- กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย จัดหลักสูตรการพัฒนาเมืองเชียงรายให้มั่นคง เจริญในทุกมิติ
- ทุเรียนแม่ฮ่องสอน อร่อยไม่แพ้ที่ใด ไม่ใช่มีแค่ลูกสองลูกแต่มีเป็นตัน ททท.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว เร่งผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
- มูลนิธิพิพัฒน์แม่ส่องสอน มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรสมาชิกอาสารักษาดินแดน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี2568
- แม่ฮ่องสอน พัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวบ้านรักไทยให้เป็นไปตามแนวทางกฎหมาย มีความปลอดภัย เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ
- แม่ฮ่องสอน ไม่มีสายการบินแล้ว หลังบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways ) หยุดบิน ไม่ส่งผลกระทบท่องเที่ยวมากนัก