การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก คำสั่งผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว 4 วัน ในห้วงระหว่างวันที่ 19 – 22 พ.ย. 63 เพื่อป้องกันในด้านอุบัติเหตุ อาชญากรรม การฉวยโอกาสเพื่อลักลอบขนย้ายสิ่งของผิดกฎหมาย และยาเสพติด ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ออกสืบสวนในเชิงลึก ก็ได้รับทราบข้อมูลว่า มีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง มีพฤติกรรมต้องสงสัย คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องการลักลอบขนยาเสพติด โดยจะใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ (ขอสงวนหมวดอักษร 6924 ภูเก็ต) เป็นรถนำทาง และจะใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนด์ เป็นพาหนะในการขนย้าย จะใช้เส้นทางผ่านอำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ
ต่อมาในช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ย. ทางเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสบปราบ ก็ได้เข้มงวดกวดขันและสังเกตุรถต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง กระทั่งรถคันรถยนต์กระบะต้องสงสัยได้เข้ามาที่ด่าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจค้นอย่างหนัก แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดยภายในรถพบชาย 1 คนนั่งอยู่ จึงเชิญตัวลงมาจากรถเพื่อสอบถาม ทราบชื่อต่อมาคือ นายสิทธา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พักอาศัยอยู่ในเขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ภายหลังการสอบสวนก็ยอมรับสารภาพว่า มีรถเก๋งอีก 1 คันที่ใช้ในการลักลอบขนยาเสพติด กำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เมื่อไปถึงจะมีคนโทรแจ้งจุดรับอีกครั้ง โดยได้รับค่าจ้างวาน จำนวน 300,000 บาท และได้จ่ายส่วนแรกมาก่อนจำนวน 100,000 บาท เมื่อทำงานเสร็จก็จะได้รับส่วนที่เหลือ
ภายหลังการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามค้นหารถคันดังกล่าวจนพบในพื้นที่ อ.สบปราบ จ.ลำปาง ก็ได้รีบสกัดกั้น และจับกุมวัยรุ่นที่อยู่ภายในรถได้อีก 1 คน คือ นายสหภาพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พักอาศัยอยู่เขตบึ่งกุ่ม กรุงเทพฯ พร้อมตรวจค้นภายในรถก็พบเจอยาเสพติดยาบ้า จำนวน 2 แสนเม็ด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลมาที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย จนสามารถจับกุมกลุ่มขบวนการได้เพิ่มอีก 4 คนคือ นายวรุตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี นายธรรมรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี นายจตุภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ทั้ง 3 คน มีบ้านพักอาศัยอยู่ในย่านคันนายาว กรุงเทพฯ และนายณัฐพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี มีบ้านพักอาศัยอยู่ใน อ.พังโคน จ.สกลนคร ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเอาไว้ และนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนทำการขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ และนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เรื่องมาใหม่
- แม่สะเรียง เส้นทางโรงเรียนชายขอบ ยังวิกฤตครูชาวบ้าน เดินทางนับ 10 ชม. ฝ่ากองดินสไลด์ถนนเละ ยกรถข้ามน้ำ
- น้ำสาละวินเพิ่มสูงขึ้น อบต.แม่สามแลบ ขอความร่วมมืองดเดินเรือเพื่อความปลอดภัย
- อบต.ขุนแม่ลาน้อย เร่งเปิดเส้นทางดินสไลด์ ถนนเขตรอยต่อบ้านฟักทอง ต.ขุนแม่ลา – บ้านปางหินฝน หลังพายุฝนกระหน่ำไม่หยุด
- อำเภอสบเมย 7 หมู่บ้าน 18 หย่อมบ้าน ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ถูกตัดขาด เส้นทางมีดินสไลด์ ไหล่น้ำกัดเซาะ ต้นไม้หักโค่น ภาวนาอย่าให้มีผู้ป่วยฉุกเฉิน
- อำเภอสบเมย ติดตามสถานการณ์อุทกภัยบ้านเรือนราษฎรริมน้ำยวม จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา”