วันศุกร์, 14 กุมภาพันธ์ 2568

ชวนเที่ยวท่าเรือท่าโป่งแดง ท่าเรือประวัติศาสตร์ คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน

Social Share

ชวนเที่ยวท่าเรือท่าโป่งแดง ท่าเรือประวัติศาสตร์ คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน

24 มกราคม 2568 นายบุญยิ่ง คีรีสัตยานนท์ อดีตผู้ใหญ่บ้านท่าโป่งแดง หมู่ที่ 5 ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้นำเราไปเยี่ยมชมศาลาเก่าแก่มีอดีตอันยาวนาน อยู่คู่กับเมืองแม่ฮ่องสอนมาแต่โบราณกาล สร้างด้วยไม้แดงทั้งหลัง มีหลังคาสองชั้น ชั้นบนมุงด้วยสังกะสี ชั้นในมุงด้วยไม้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปาย ศาลาหลังนี้ มีอายุกว่า 160 ปีแล้ว เดิมใช้เป็นท่าเรือที่พ่อค้าชาวพม่านำสินค้ามาพัก เปรียบได้กับด่านศุลกากรในปัจจุบัน ต่อมาเปลี่ยนเป็นวัด โดยมีพระมาจำพรรษา และได้ใช้เป็นอาคารเรียนหลังแรก ของหมู่บ้าน ปัจจุบันได้รับการบูรณะจากงบยุทธศาสตร์จังหวัด ฯ และงบสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลผาบ่อง ให้มีความคงทนแข็งแรง และได้เสริมแต่งศาลาด้วยศิลปะพื้นบ้านไทใหญ่ คือ ฉลุปานซอย อย่างสวยงาม

ศาลาท่าเรือประวัติศาสตร์บ้านท่าโป่งแดง สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ.2372 มีบริษัทบริติชบอมเบร์ เบอร์มา ประเทศอังกฤษสัมปทานไม้สักได้ในสมัยนั้น ได้จ้างชาวไทใหญ่สร้างท่าเรือนี้ขึ้นมา ณ สมัยนั้นตรงกับที่เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนองค์แรก ชื่อเจ้าฟ้าพญาสิงหนาทราชาขึ้นครองเมืองแม่ฮ่องสอน ศาลาท่าเรือแห่งนี้ใช้เป็นที่ทำการค้าไม้สักฝรั่งที่ประเทศอังกฤษ สัมปทานได้ทำการค้าไม้สักระหว่างประเทศไทยและพม่า ใช้ช้างลากไม้สักตามแม่น้ำปาย ศาลาท่าเรือแห่งนี้ยังใช้เป็นที่พักสินค้าขายระหว่างประเทศไทยและพม่า โดยใช้เรือถ่อสินค้าล่องตามลำน้ำปายถึงแม่น้ำสาละวิน ( หรือน้ำคง ) ซึ่งเป็นเส้นทางขนสินค้าสะดวกที่สุดในสมัยนั้น

ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2451 เจ้าดารารัศมี พระชายาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ออกตรวจตราเมืองชายแดน ระหว่างไทย-พม่า ได้เดินทางล่องน้ำปายมายังเมืองแม่ฮ่องสอน ได้เสด็จลงท่าเรือบ้านท่าโป่งแดง ล่องน้ำปายไปถึงแม่น้ำสาละวิน ถึงบ้านใหม่ไปผาปูน ไปเยี่ยมพระประยูรญาติ ซึ่งเป็นกะเหรี่ยงแดง รัฐคะยา ประเทศพม่า ต่อมาเมื่อ พ.ศ 2479-พ.ศ.2480 ชาวเมืองแม่ฮ่องสอน ได้กราบอาราธนา อัญเชิญพระพุทธรูปพระมหามุนี ( พลาละแข่ง ) จากเมืองมัณฑเลย์ นำขึ้นเรือถ่อมาขึ้นที่ศาลาหลังนี้ แล้วบรรทุกใส่เกวียนลำเลียงเข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดหัวเวียง เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน ศาลาท่าเรือหลังนี้ บ้านท่าโป่งแดงใช้เป็นที่ขึ้นวัด ฟังธรรม ใช้เป็นที่เรียนหนังสือ และเป็นที่ทำการประชุมชาวบ้านท่าโป่งแดง และยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรม อื่น ๆ ของชุมชน สถานที่แห่งนี้จึงนับว่าทรงคุณค่า ทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก ชาวบ้านท่าโป่งแดง จึงได้ร่วมใจกันอนุรักษ์ไว้ เพื่อรักษาศาลาท่าเรือโบราณหลังนี้ ให้คงอยู่สืบไปชั่วลูกหลาน

ภายในบริเวณท่าเรือบ้านท่าโป่งแดง มีสิ่งสำคัญได้แก่ ศาลเจ้าพ่อจิ่ง และศาลเจ้าพ่อยคนะ เป็นศาลที่ชาวบ้านท่าโป่งแดงให้ความเคารพนับถือ อยู่คู่กับท่าเรือท่าโป่งแดงมานานแล้ว อาคารท่าเรือ ( หรือศาลาซูตองเป้ ) สร้างด้วยไม้แดงทั้งหลัง อายุกว่า 160 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2417 ตรงกับสมัยพญาสิงหนาทราชา ครองเมืองแม่ฮ่องสอน ประเทศอังกฤษได้มาสัมปทานไม้ บริษัทบอมเบย์เบอร์มาได้ออกทุนให้ชาวไทใหญ่ในแม่ฮ่องสอนเป็นคนก่อสร้าง พระพุทธรูปปางสมาธิ ( องค์พระประธาน ) พระอุปคุต และพระพุทธรูปองค์ต่างๆ ที่ประดิษฐานอยู่บนศาลา รูปพญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืององค์แรกของแม่ฮ่องสอน

ภายหลังการบูรณะศาลาแห่งนี้ ได้มีการทำพิธีทางศาสนา สืบชะตา 3 ครั้ง เมื่อปี พ.ศ.2563 , ปี พ.ศ. 2564 และปี พ.ศ.2565 แล้ว จึงได้นำรูปของพญาสิงหนาทราชา มาประดิษฐานไว้ ณ ศาลาแห่งนี้ รูปของเจ้าดารารัศมี ซึ่งท่านได้เสด็จมาเมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อปี พ.ศ. 2451 โดยได้เสด็จลงเรือล่องน้ำปาย ไปที่ผาจอง เพื่อไปเยี่ยมพระประยูรญาติ รูปของหลวงพ่อจิ่ง เจ้าอาวาสวัดรูปแรกของวัดท่าโป่งแดง ( สมัยนั้นยังไม่มีวัด จึงได้ใช้ศาลาหลังนี้ เป็นวัดหลังแรกของหมู่บ้าน ) และศาลาปานซอย สร้างเมื่อปี พ.ศ.2541 แล้วเสร็จ ปี 2542 ใช้เป็นที่บริการนักท่องเที่ยวของท่าเรือท่าโป่งแดง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีการประดับด้วยฉลุปานซอย

บนศาลาซูตองเป้แห่งนี้ มียันต์ศักดิ์สิทธิ์ คือยันต์มหาทักษา ทั้ง 8 ทิศ ประกอบด้วยดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวเสาร์ ดาวพฤหัส ดาวพระราหู ดาวศุกร์ และดาวเกตุ ( ยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า ) เพื่อให้คนที่เข้ามาได้กราบไหว้บูชา และขอพร เพื่อเกิดสิริมงคลแก่ตนเอง ถึงถือว่าเป็นความเชื่อทางศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม ที่ได้ยึดถือมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

นอกจากนี้ภายในศาลา ยังมีภาพประวัติศาสตร์ต่าง ๆของเมืองแม่ฮ่องสอน ในยุคแรก ๆ ให้ได้ศึกษาเรียนรู้ เช่น ภาพโรงเรียนแห่งแรกของหมู่บ้านท่าโป่งแดง, ภาพของเจ้าผู้ครองเมืองแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2417 -พ.ศ. 2482 ,ภาพของการใช้เรือถ่อโบราณ ,ภาพของประวัติหมู่บ้านท่าโป่งแดง และภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านท่าโป่งแดงในสมัยโบราณ , ภาพของพระอริยสงฆ์แห่งเมืองในหมอก , ภาพของทำเนียบผู้ใหญ่บ้านท่าโป่งแดง เป็นต้น

นายบุญยิ่ง คีรีสัตยานนท์ อดีตผู้ใหญ่บ้านท่าโป่งแดงได้กล่าวว่า ในอดีตท่าเรือแห่งนี้ เคยมีบริการนั่งเรือนำเที่ยวตามลำแม่น้ำปาย แต่ปัจจุบัน ท่าเรือท่าโป่งแดง ไม่มีเรือนำเที่ยวให้บริการแล้ว เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด 19 และเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป จึงทำให้ชาวบ้านเลิกกิจการนำเที่ยวโดยทางเรือไปโดยปริยาย หากมีนักท่องเที่ยวที่สนใจนั่งเรือ ก็จะแนะนำให้ไปใช้บริการที่ท่าเรือบ้านห้วยเดื่อ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือท่าโป่งแดงนัก ปัจจุบันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนเมษายน ท่าเรือแห่งนี้ จะมีซุ้มน้ำนั่งให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนหย่อนใจในช่วงฤดูร้อนของทุกปี จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว ประชาชนผู้ที่สนใจ สามารถแวะมาเที่ยวชมศาลาท่าเรือประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้ ซึ่งเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น.- 17.00 น.

Cr. ฉลอง หมั่นสกุล จ.แม่ฮ่องสอน