วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

ตะลอนทัวร์บ้านปางค่าใต้ พะเยา แหล่งวัฒนธรรมที่ห้ามพลาด สัมผัสวิถีชีวิตชนเผ่าเย้า ชมพลาสปอร์ตยาวที่สุดในโลก สมัยราชวงค์กวางสี

Social Share

ตะลอนทัวร์บ้านปางค่าใต้ พะเยา แหล่งวัฒนธรรมที่ห้ามพลาด สัมผัสวิถีชีวิตชนเผ่าเย้า และชมพลาสปอร์ตยาวที่สุดในโลก สมัยราชวงค์กวางสี

บ้านปางค่าใต้ หมู่ที่ 1 ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา อีกหนึ่งเส้นทางที่อยากการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ วิถีชีวิตแบบชาวบ้านของชาวเขาเผ่าเมี่ยน หรืออีกชื่อที่คุ้นเคยกันคือเรียกว่า เผ่าเย้า การดำเนินวิถีชีวิต วัฒนธรรม จากอดีตสู่ปัจจุบันที่สวยงาม

วิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าเมี่ยน (เย้า) เริ่มจากที่บ้านปางค่าใต้ ทุกปีจะมีการฉลองปีใหม่เย้าตรงกับช่วงตรุษจีน ชาวบ้านจะแต่งกายชุดประจำเผ่า สวมเครื่องประดับเงินที่สวยงาม และมาร่วมชุมนุมกัน ที่สำคัญแล้วห้ามพลาด หากใครไม่เคยเห็นถึงว่ามาไม่ถึงหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะมี “พลาสปอร์ตที่ยาวที่สุดในโลก” สมัยราชวงศ์กวางสีมาจัดแสดง ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ที่อาคารวัฒนธรรมชุมชนบ้านปางค่าใต้

การใช้ชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ ยังคงยึดถือการเกษตรเป็นหลัก โดยทางศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า ได้เข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับกลุ่มชาวบ้าน ในการปลูกพืชผัก ผลไม้นานาชนิด จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวผสมผสาน มาแล้วต้องชิมผลไม้สดๆ จากสวน ที่ชาวบ้านดูแลเป็นอย่างดี ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง เรียกว่าสายแบกเป้ท่องเที่ยวตามป่าเขา แนวธรรมชาติถูกใจแน่นอน เพราะมีวิวที่สวยงาม และอาหารพื้นถิ่นที่อร่อยให้ชิมด้วย

มาตรการของการดูแลพื้นที่ป่าของชาวบ้านแห่งนี้ ก็ได้รับการยกย่องอย่างมาก เพราะอยู่กับป่าและอาศัยป่าได้แบบยั่งยืน ไม่มีการบุกรุกพื้นที่ป่า แต่พร้อมใจกันอนุรักษ์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ด้วย โดยชาวบ้านที่นี่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง การอนุรักษ์ดินและน้ำ ด้วยการปลูกหญ้าแฝก รณรงค์การลดใช้สารเคมี และการเฝ้าระวังการปนเปื้อนมลพิษในสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของคนและชุมชน ด้วยโครงการหมู่บ้านสะอาด หมู่บ้านปลอดยาเสพติด การอบรมยุวเกษตร ส่งเสริมการอนุรักษ์งานหัตถกรรมชนเผ่าเมียน ที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนเป็นศูนย์การเรียนรู้การเกษตรที่สูงแก่นักเรียน นักศึกษา เกษตรกร และผู้สนใจทั่วไปอีกด้วย

เรียกได้ว่า มาสถานที่แห่งนี้นอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติแล้ว ยังได้ความรู้จากเกษตรกรที่ทำการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบทุเรียน เมล่อน เงาะ เสาวรส มาที่แห่งนี้ห้ามพลาดเลย เพราะมีของดีราคาถูก และมีคุณภาพไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย บุกชิมกันภายในสวน แกะกันสดๆ ลิ้มรสความหอมหวาน และอร่อยของผลไม้ ชมวิวของธรรมชาติจากภูมิประเทศที่มีภูเขาสูงต่ำสลับทับซ้อนกัน อุณหภูมิที่นี่อยู่ที่ประมาณ 25 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนและไม่หนาว อากาศกำลังดีสำหรับการท่องเที่ยว

ขากลับ ออกจากหมู่บ้านแห่งนี้คงพลาดไม่ได้ที่จะแวะซื้อของกลางเป็นผลไม้สดๆ จากไร่ และของที่ระลึก กระเป๋า เสื้อผ้า และสิ่งของที่เป็นสินค้าแฮนเมดทำมือ เย็บมือจากชาวบ้านในพื้นที่ ที่มีเอกลักษณ์ ลวดลายที่สวยงาม นำมาเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับมา เพื่อนำไปฝากและเป็นของที่ระลึกในการเดินทางอีกด้วย