เกิดเหตุเศร้า ตำรวจแม่แตง เครียดจัดยิงตัวตายคาบ้านพัก คาดถูกย้ายจากสายปราบปรามเป็นสอบสวน

เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 2 ส.ค. 62 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.ฐนวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ ผกก.สภ.แม่แตง ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดของ สภ.แม่แตง ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกาย ยิงตัวเองเสียชีวิตในบ้านพัก ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านป่าเส้า ตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากสถานีตำรวจภูธรแม่แตง ไปประมาณ 500 เมตร ภายหลังจากทราบเรื่อง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์จากโรงพยาบาลแม่แตง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ในที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้านสองชั้น และบริเวณห้องโถง ได้พบศพ ร.ต.อ.สุรศักดิ์ สุวรรณศักดิ์ อายุ 50 ปี ตำแหน่ง รองสารวัตรสอบสวน สภ.แม่แตง ได้หนุนหมอนและนอนเสียชีวิตอยู่ ลักษณะการแต่งกายสวมกางเกงสีกากี สวมเสื้อยืดสีขาว เนื่องจากช่วงเช้าได้เข้าทำงานและพึ่งออกเวรจากโรงพัก จึงได้ถอดแต่เพียงเสื้อสีกากีออก เหลือแบบการแต่งกายครึ่งท่อน และข้างกายมีอาวุธปืนพกสั้นประจำตัวของ ร.ต.อ.สุรศักดิ์ ตกอยู่ เป็นอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 มม. ภายในบรรจุกระสุนอยู่ 5 นัด จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่า มีร่องรอยของกระสุนยิงเข้าขมับขวาทะลุออกด้านซ้าย

พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด รวมถึงครอบครัวและญาติพี่น้องต่างพากันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ร.ต.อ.สุรศักดิ์ เป็นคนที่ทำงานเก่ง เป็นที่รักของเพื่อนและผู้บังคับบัญชา ซึ่ง ร.ต.อ.สุรศักดิ์ ในอดีตตั้งแต่มีตำแหน่งยศจ่า ในสายงานสืบสวนของ สภ.แม่แตง กระทั่งได้มุ่งมั่นจนสามารถสอบติดนายร้อยได้ด้วยตนเอง เมื่อตำแหน่งสูงขึ้นก็ได้ไปรับตำแหน่งใหม่เป็นรองสารวัตรสอบสวน สภ.เชียงดาว และปฏิบัติหน้าที่อยู่ประมาณ 3 ปี ก่อนจะขอย้ายกลับมาที่ สภ.แม่แตง และมารับตำแหน่งรองสารวัตรปราบปราม สภ.แม่แตง และปฏิบัติหน้าที่เรื่อยมา และล่าสุดได้ยขอย้ายไปอยู่ในตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน ในเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา

การปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบในด้านคดี ก็ทำงานด้านคดีไม่มีปัญหา เรียบร้อยหมดทุกคดี แต่คาดว่าสาเหตุที่ได้ยิงตัวตาย น่าจะมาจากความเครียด เพราะตำแหน่งในด้านสอบสวน ถือเป็นงานที่หนัก ต้องรับงานทุกคดีที่เกิดขึ้นในช่วงที่ปฏิบัติหน้าที่บนโรงพัก อาจจะทำให้เกิดความเครียดสะสม และเชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่ย้ายจากการปฏิบัติหน้าที่ในสายปราบปราม มาเป็นพนักงานสอบสวน ส่วนอัตรากำลังที่ขาดไป ก็คงต้องมีการพิจารณาใหม่ ซึ่งขณะนี้ต้องดำเนินการเรื่องของการเสียชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชาให้แล้วเสร็จก่อน