วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

หัวเว่ย ประกาศแพลตฟอร์มประมวลผล AI Atlas พร้อมสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์แล้ววันนี้

19 เม.ย. 2019
789
Social Share

เซินเจิ้น, จีน -18 เม.ย. 62 – Atlas แพลตฟอร์มประมวลผล AI ของหัวเว่ย ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล AI ตระกูล Huawei Ascend ทำให้ Atlas มีฟอร์มแฟคเตอร์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น โมดูลตัวเร่งความเร็ว การ์ด ไปจนถึง AI edge station และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้โซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐาน AI สำหรับทุกสถานการณ์แก่ device-edge-cloud แพลตฟอร์มดังกล่าวรองรับการใช้งานด้านต่าง ๆ ทั้งเมืองอัจฉริยะ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม การเงิน อินเทอร์เน็ต และพลังงานไฟฟ้า

แพลตฟอร์มประมวลผล AI Atlas เป็นส่วนประกอบสำคัญในชุดโซลูชัน AI แบบ full-stack พร้อมรองรับกับทุกสถานการณ์ของหัวเว่ย โดยเป็นแพลตฟอร์มที่ปลดล็อคพลังการประมวลผลขั้นสุด เพื่อช่วยให้ลูกค้าพร้อมรับกับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI

หน่วยประมวลผล AI ตระกูล Huawei Ascend ใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยอย่าง Da Vinci 3D Cube ให้การประหยัดพลังงานและปริมาณการประมวลผลที่สูงเป็นพิเศษ เพื่อใช้งาน Atlas ด้วยพลังการประมวลผล AI ที่เหนือชั้น โดยผลิตภัณฑ์ตระกูล Atlas มีจุดเด่นดังต่อไปนี้

Atlas 200 AI Accelerator Module: บรรจุอยู่ในฟอร์มแฟคเตอร์ขนาดครึ่งหนึ่งของบัตรเครดิต รองรับการวิเคราะห์วิดีโอความคมชัด HD แบบเรียลไทม์ 16 ช่องทาง และสามารถใช้กับอุปกรณ์ปลายทาง เช่น กล้อง หุ่นยนต์ และโดรน

Atlas 200 DK AI Developer Kit: ช่วยให้นักพัฒนาตั้งค่าสภาพแวดล้อมการพัฒนาได้ภายใน 30 นาที และผนวกรวมสภาพแวดล้อมการเขียนโปรแกรมแบบกราฟิกเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ด้วยความสามารถแบบครบทุกสถานการณ์ของหน่วยประมวลผล Ascend ทำให้สามารถพัฒนาโปรแกรมบนชุดนักพัฒนา Atlas 200 DK AI Developer Kit ได้ในครั้งเดียว และใช้งานสถานการณ์ device-edge-cloud ได้โดยไม่ต้องปรับแก้โค้ดใด ๆ

Atlas 300 AI Accelerator Card: มาในฟอร์มแฟคเตอร์แบบ half-height half-length และมีอินเตอร์เฟซตามมาตรฐาน PCIe นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการประมวลผล INT8 อยู่ที่ 64 TOPS และรองรับการวิเคราะห์วิดีโอระดับ HD แบบเรียลไทม์ 64 ช่องทาง โดยกินพลังงาน 67 วัตต์ Atlas 300 มาพร้อมกับหน่วยความจำ 32 กิกะไบต์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์วิดีโอและการประเมินค่าที่มีความหนาแน่นสูง

Atlas 500 AI Edge Station: มอบประสิทธิภาพอันทรงพลัง โดยสามารถประมวลข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ขอบของเครือข่าย (At the edge) อุปกรณ์เพียงชิ้นเดียวมาพร้อมกับความสามารถในการประมวลผล INT8 ที่ระดับ 16 TOPS และใช้พลังงานน้อยมากเพียงไม่ถึง 1 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อวัน ผลิตภัณฑ์นี้ถูกผลิตขึ้นสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนที่ขอบของเครือข่าย ซึ่งสามารถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพแม้อยู่ในสภาพการติดตั้งที่รุนแรงตั้งแต่ -40 ถึง 70 องศาเซลเซียส

ในระหว่างการเปิดตัวนั้น โฮ่ว จินหลง ประธาน Huawei Cloud & AI Products & Services เปิดเผยว่า หัวเว่ยจะใช้กลยุทธ์อุตสาหกรรมประมวลผลอัจฉริยะแบบสามบวกหนึ่ง โดยใช้นวัตกรรมชิปที่หัวเว่ยคิดค้นขึ้นเอง 5 ประเภทสำหรับการประมวลผล เครือข่าย การเก็บข้อมูล การจัดการ และ AI หัวเว่ยมีเป้าหมายในการตอบสนองความต้องการในการประมวลผลสำหรับการใช้งานในรูปแบบ device-edge-cloud โดยอาศัยแพลตฟอร์ม 3 ประการ ซึ่งก็คือแพลตฟอร์มประมวลผล x86, AI, และ ARM ทั้ง 3 แพลตฟอร์มล้วนเป็นพื้นฐานสำหรับโซลูชั่น AI แบบ full-stack และสำหรับทุกสถานการณ์ของหัวเว่ย ในขณะเดียวกัน หัวเว่ยก็จะสร้างระบบนิเวศการประมวลผลอัจฉริยะใน 3 แพลตฟอร์มนี้ และทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อวางรากฐานสำคัญให้กับการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะของลูกค้า

“AI ในฐานะเทคโนโลยีอเนกประสงค์ยุคใหม่ จะกลายเป็นขีดความสามารถพื้นฐานใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทั่วทุกอุตสาหกรรมและองค์กร” หม่า ไห่สู ผู้อำนวยการแผนก Huawei Intelligent Computing Business กล่าว “หัวเว่ยได้ทุ่มเทเรื่อยมาในการนำเสนอเทคโนโลยี AI แบบครอบคลุมที่ใช้ต้นทุนไม่มาก แต่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือ แพลตฟอร์มประมวลผล Atlas AI เป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งในแผนแม่บท AI ของหัวเว่ย ซึ่งมีการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมสมาร์ทซิตี้ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม การเงิน อินเทอร์เน็ต และพลังงานไฟฟ้า โดยหัวเว่ยได้ร่วมพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ กับบรรดาพันธมิตร เพื่อเปิดตัวแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในแวดวง AI เพื่อนำเสนอโซลูชันศักยภาพสูงที่รองรับกับทุกสถานการณ์ ให้ลูกค้านำไปน้อมรับกับยุคแห่งเทคโนโลยีอัจฉริยะต่อไป”

Huawei Intelligent Computing มุ่งมั่นในการใช้นวัตกรรมชิปเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีประมวลผลอัจฉริยะให้แพร่หลาย จนก่อตัวขึ้นเป็นรายการผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ FusionServer Pro ที่ต่อยอดมาจากกลไกบริหารจัดการและเร่งความเร็วอัจฉริยะ ไปจนถึงแพลตฟอร์มประมวลผล Atlas AI และแพลตฟอร์มประมวลผลด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง Mobile Data Center (MDC) ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากหน่วยประมวลผล Ascend AI ตลอดจนเซิร์ฟเวอร์ TaiShan จากหน่วยประมวลผล Kunpeng ARM

หัวเว่ย ไม่หยุดที่จะงัดใช้ศักยภาพอันแข็งแกร่งในชิปและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ส่งผลให้หัวเว่ยอยู่ในจุดที่สามารถส่งมอบขุมพลังประมวลผลอันเหนือชั้นแก่ลูกค้า เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันของแต่ละอุตสาหกรรม นอกจากนี้ หัวเว่ยยังหมั่นยกระดับความร่วมมือแบบ cloud-edge และศักยภาพรองรับการใช้งานในทุกรูปแบบ เพื่อก่อให้เกิดโซลูชันบูรณาการที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย เพื่อเร่งการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในวันข้างหน้า

งาน Intelligent Computing Tour for China มีผู้เข้าร่วมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์ บริษัทลูกค้า และพันธมิตร โดยหัวเว่ยได้ใช้โอกาสนี้ในการนำเสนอเทรนด์ใหม่ ๆ ในแวดวงคอมพิวติ้ง เช่นเดียวกับกลยุทธ์และโครงการริเริ่มด้านการประมวลผลอัจฉริยะของหัวเว่ยเอง ไปจนถึงแพลตฟอร์มประมวลผล AI ที่รองรับทุกการใช้งาน

งานดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้บุคคลในวงการสามารถแบ่งปันความก้าวหน้าและแนวปฏิบัติล่าสุดเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI โดยมีแขกรับเชิญพิเศษคือ ดร.เดวิด ที เหงียน ผู้อำนวยการประจำ Accenture Labs เช่นเดียวกับบรรดาตัวแทนจากบริษัทลูกค้าและพันธมิตร ซึ่งพร้อมใจบอกเล่าเทรนด์เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI อย่างเจาะลึก ไปจนถึงเทรนด์ในเรื่องเทคโนโลยีจดจำใบหน้าและรักษาความปลอดภัยในเมือง ที่ล้วนแล้วเป็นข้อมูลการประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ การนำเสนอเหล่านี้ได้เข้ามาแสดงให้เห็นคุณประโยชน์ที่จับต้องได้จากการใช้เทคโนโลยี AI