วันอาทิตย์, 5 พฤษภาคม 2567

(มีคลิป) อุทธาหรณ์เตือนภัย ระวังนักท่องเที่ยวลักทรัพย์ หลังเกิดเหตุการณ์กับร้านเครื่องเงินย่านท่าแพ

Social Share

วันที่ 1 ส.ค. 62 : ร้านค้าเครื่องเงินแห่งหนึ่งในย่านถนนท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ถูกคนร้ายเป็นหญิงชาวต่างชาติเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ โดยภายในคลิป ได้ระบุเวลาไว้ ในเวลา 20.17 น.ของคืนวันที่ 30 ก.ค. 2562 คนร้ายเป็นหญิงชาวต่างชาติ รูปร่างท้วม ผิวขาว สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงรัดรูปแบบสามส่วน ได้ทำทีเข้ามาเป็นลูกค้าภายในร้าน และเลือกซื้อของภายในร้าน กระทั่งต่อมา ทางพนักงานในร้านเผลอ ได้แอบหยิบฉวยเอาสร้อยข้อมือ และจี้ ใส่ในกระเป๋า ซึ่งพฤติกรรมที่เห็นชัดเจนคือ คนร้ายได้เดินกลับไปกลับมา ทำทีเหมือนเดินดูของภายในร้านและก่อเหตุขโมยครั้งละ 1 ชิ้น ภายหลังที่ก่อเหตุเสร็จ ก็ได้ออกจากร้านไป

ต่อมาทางพนักงานได้เช็คสินค้าภายในร้าน ก็ทราบว่า ทรัพย์สินในร้านได้สูญหายไป ซึ่งมีมูลค่ากว่า 6,150 บาท เมื่อตรวจเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดก็เห็นพฤติกรรมของคนร้ายอย่างชัดเจน จากนั้นในเช้าวันที่ 31 ก.ค. 62 ทางพนักงานในร้าน ก็ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สุศรันย์ ศรีบุญเจริญชัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อขอให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดี ขณะเดียวกัน ทางร้านได้กระจายไปในกลุ่มผู้ที่จำหน่ายเครื่องเงิน และคนรู้จักให้ระมัดระวังแล้ว

ด้านร้านที่เกิดเหตุเกิดได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ล่าสุดทางร้านได้เจอกับผู้ก่อเหตุแล้ว โดยมีพลเมืองดีไปพบเจอในบาร์เหล้าแห่งหนึ่ง และได้แจ้งให้กับทางร้านทราบ และทางร้านได้เข้าไปพูดคุยเพื่อเจรจากัน ปรากฏว่า ทางผู้ก่อเหตุก็รู้สึกเศร้าเสียใจที่ได้ก่อเหตุลงไป และขอโทษทางร้าน พร้อมกับยินยอมคืนทรัพย์สินให้กับทางร้านทั้งหมด ซึ่งทางร้านก็ได้ปรับเงิน จำนวน 4,000 บาท จากผู้ก่อเหตุในคดีนี้

ด้าน พ.ต.ท.สุศรันย์ ศรีบุญเจริญชัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนี้ หลังจากได้รับแจ้ง ก็ได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ลงพื้นที่เกิดเหตุแล้ว และได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดของทางร้านมาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ แต่ล่าสุดได้ทราบข้อมูลว่า ทางร้านได้พบเจอกับผู้ที่ก่อเหตุโดยบังเอิญ และเข้าไปพูดคุยแล้ว แต่ผลการพูดคุยนั้นไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร ต้องรอให้ทางร้านติดต่อแจ้งผลให้ทราบอีกครั้ง

สำหรับทางด้านคดีนั้น ในคดีนี้ถือเป็นคดีอาญา แม้ว่าทางเจ้าของร้านจะตกลงกับผู้เสียหายและได้ทรัพย์สินคืนแล้ว และไม่เอาเรื่องกัน แต่ทางด้านคดีไม่สามารถที่จะยอมความกันได้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์”

นอกจากนี้ ในคดีลักทรัพย์ร้านเครื่องเงินนั้น ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อน ก็เคยเกิดเหตุการณ์คนร้ายงัดลูกกรงเหล็กดัดและเข้าไปลักทรัพย์ในร้านเครื่องเงินแห่งหนึ่ง แต่คนละร้านกับร้านที่เกิดเหตุ กระทั่งต่อมาได้เกิดคดีนี้ ที่คนร้ายเป็นหญิงชาวต่างชาติเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ ถือว่า เป็นการกระทำที่นักท่องเที่ยวกลายเป็นผู้ก่อเหตุ และแฝงตัวมาในคราบของนักท่องเที่ยว ก็ขอฝากเตือนร้านค้าต่างๆ ขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินภายในร้านอย่างละเอียด หลังจากนักท่องเที่ยวเดินออกจากร้านไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว เพราะจะทำให้สูญเสียทรัพย์สิน หากบางร้านไม่มีกล้องวงจรปิด รวมถึงถ้าหากนักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ก็จะเป็นเรื่องยากในด้านคดี