วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

การท่าเชียงใหม่แจ้งจับกลุ่มไลน์อ้าง จนท.รัฐทำสติกเกอร์หลอกขายให้ “แกร็บคาร์” อ้างเคลียร์ตำรวจและจอดรับส่งในสนามบินได้

01 มี.ค. 2019
1012
Social Share

1 มี.ค. 62 : ที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ นาวาอากาศตรี มณธนิก รักงาม ที่ปรึกษา 10 ทอท.และรักษาการ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) กล่าวว่า ตอนนี้มีคนมาแอบอ้างว่า หากใครสติกเกอร์หน้ารถแกร็บสามารถเข้ามาให้บริการในท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ เป็นลักษณะที่หลอกให้คนโอนเงินไปให้ แล้วจะได้สติกเกอร์มาติดรถ เมื่อมาที่นี่จะเข้าได้ ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งทางฝ่ายกฎหมายของ ทอท. ได้ดำเนินการในเรื่องนี้ก็ได้ดำเนินการแจ้งความไว้แล้ว แต่จะทำมานานหรือยังไม่ทราบ ซึ่งทาง ทอท.พึ่งมาเจอวันนี้

นาวาอากาศตรี ภานุพงศ์ นวลเป็นใย ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า แอปดังกล่าวมีการแอบอ้างว่าสามารถเคลียร์เรื่องของใบสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุกอย่าง รวมถึงการเข้ามารับบริการ รับผู้โดยสารที่ท่าอากาศยาน รวมถึงแกร็บ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว อ้างว่า มีผู้ใหญ่ระดับพลอากาศตรี, พลตำรวจ, พลตรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นผู้ดูแลหากติดสติกเกอร์นี้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการจับปรับแกร็บแท็กซี่ที่ผิดกฎหมายเข้ามารับผู้โดยสารในท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ ซึ่งเขานำสถิติการจับกุม การเปรียบเทียบปรับมาแสดง แล้วบอกว่าเขาสามารถเคลียร์กับทาง ทอท.ได้ แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่การแอบอ้าง แต่ทาง ทอท.ไม่รับเคลียร์ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะได้ดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานเชียงใหม่

นอกจากนี้ยังตรวจพบว่า มีการเรียกเก็บเป็นรายเดือนด้วยหากใครอยากได้สติกเกอร์ดังกล่าวไปใช้ คิดรายเดือน 500 บาท และค่าบริการ 300 บาท รวม 800 บาทต่อเดือน เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ใช่คนของเจ้าหน้าที่การท่าฯ แน่นอน ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใคร และอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ และให้ทางเจ้าหน้าที่ของการท่าฯ เดินทางไปแจ้งความเบื้องต้นไว้ก่อน พร้อมกับประสานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่

สำหรับการดำเนินการจับกุมแกร็บคาร์นั้น ทาง ทอท.หากตรวจพบก็ดำเนินการจับและปรับอยู่ที่ 500 – 2,000 บาท บุคคลที่เป็นแกร็บคาร์เข้ามาในท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งได้ประสานกับทางขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ นำป้ายมาติดไว้แล้ว ว่าการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมาย

ขณะที่ผู้การเชียงใหม่ สั่งการเร่งไล่ล่าจับกุมกลุ่มคนเหล่านี้ เพราะถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานของการท่าอากาศยาน แล้วยังส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ถูกหลอกลวงด้วย จะทำการจับกุมให้เร็วที่สุด และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วย