กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนห้ามทารกดูดน้ำแช่ทองคำ เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคหรือโลหะหนักที่เกิดการกัดกร่อนเข้าสู่ร่างกายได้ ย้ำชัดสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารกคือนมแม่
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการที่มีการแชร์ในสื่อโซเชียลทารกกับขวดนมที่มีสร้อยทองอยู่ภายในขวด โดยอ้างเป็นความเชื่อโบราณว่า ให้ทารกดูดน้ำแช่ทองคำจะทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีวาสนาดีนั้น เป็นความเชื่อที่ผิดและไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคหรือโลหะหนักที่เกิดการกัดกร่อนเข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งสิ่งที่เด็กวัยทารกควรได้รับและดีที่สุด คือ นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน โดยไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับลูก มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิดที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต ช่วยพัฒนาสมอง จอประสาทตา ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ รวมทั้งเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและถูกสร้างมาให้เหมาะสมที่สุดกับสภาพร่างกายของทารก หลังจากทารกอายุครบ 6 เดือน เมื่อระบบย่อยและดูดซึมอาหารพัฒนาได้ค่อนข้างสมบูรณ์แล้วจึงให้เริ่มกินอาหารที่เหมาะสมตามวัย
“ทั้งนี้ การให้นมลูกนอกจากจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางร่างกายให้ลูกแล้ว ยังทำให้เกิดสายสัมพันธ์ที่ดี ผ่านการโอบกอดขณะให้กินนมแม่ ก่อให้เกิดความผูกพัน ลูกได้รับการกระตุ้นทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 ผ่านการมองเห็นแม่ ได้ยินเสียงหัวใจแม่ ได้กลิ่นนมแม่ รับรสนมแม่ มือสัมผัสและได้รับการโอบกอดจากแม่ ทำให้ช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางด้านสมองและสติปัญญา ที่สำคัญ การโอบกอด การสบตา พูดคุยของแม่ขณะให้นมลูก จะทำให้แม่และลูกรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอีกด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
เรื่องมาใหม่
- แม่ฮ่องสอน เสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การจัดการไฟป่าและหมอกควัน
- แม่ฮ่องสอน Kick off โครงการยกระดับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA)
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกอบพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่น
- อธิบดีกรมอุทยานฯ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าลุ่มน้ำปาย และคดีชิงตัวผู้ต้องหา ล่าสุดเข้ามอบตัวแล้ว 5 คน
- ศิษย์เก่าโรงเรียนรังษีวิทยา มอบเครื่องกรองอากาศ 18 เครื่อง เพื่อดูแลเด็กอนุบาล ปลอดภัยจากค่าฝุ่น PM 2.5