(มีคลิป) ชาวสันกำแพง เชียงใหม่ และบ้านธิ ลำพูน มีลุ้นเป็นสนามบินแห่งที่ 2 รมว.คมนาคม บินมารับฟังข้อมูล

ชาวสันกำแพง เชียงใหม่ และบ้านธิ ลำพูน มีลุ้นเป็นสนามบินแห่งที่ 2 รมว.คมนาคม บินมารับฟังข้อมูล ยืนยันจะให้เกิดได้คนเชียงใหม่ต้องช่วยกัน แม้จะต้องเวนคืนพื้นที่ “ทุกเรื่อง ไม่มีของฟรีในโลก และไม่มีอะไรที่เราไม่ต้องเสียสละ แต่ถ้าร่วมกันแล้วหาวิธีการที่จะแบ่งเบา เยียวยา บรรเทา ไม่ทิ้งกัน”

ช่วงบ่ายวันนี้ (25 ต.ค. 62) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารสำนักงานท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยมี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ นางวราภรณ์ วรพงศธร ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ และผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในปีงบประมาณ 2562 ซึ่งมีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารร้อยละ 4.55 หรือประมาณ 11.33 ล้านคน โดยผู้โดยสารภายในประเทศลดลงร้อยละ 1 ขณะที่ผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.01 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2561

ปัจจุบันมีเส้นทางบินภายในประเทศ 12 เส้นทาง และเส้นทางบินระหว่างประเทศ 28 เส้นทาง ทั้งนี้ผู้โดยสารชาวต่างชาติ 3 อันดับแรกได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน โดยเฉพาะผู้โดยสารชาวจีนมีอัตราส่วนถึงร้อยละ 43.99 จากจำนวนผู้โดยสารชาวต่างชาติทั้งหมด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันเกิดขีดความสามารถของท่าอากาศยานเชียงใหม่แล้ว ซึ่งท่าอากาศยานรองรับได้ 8 ล้านคน ตอนนี้ 11 ล้านคนกว่า การแก้ไขและการคาดการณ์ เพื่อรองรับผู้โดยสาร และคาดการณ์ว่าถึงปี 2568 ผู้โดยสารจะถึง 20 ล้านคน โดยวางแผนในการสร้างอาคารรับผู้โดยสาร อาคารจอดรถให้กับผู้ใช้บริการ การแยกอาคารสนามบินนานาชาติ ซึ่งขณะนี้งบประมาณมีพร้อมอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนและให้ทราบถึงสิ่งที่จำเป็นเรื่องการขยายท่าอากาศยาน หากจะทำความเข้าใจกันได้ ก็จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้

นายศักดิ์สยาม กล่าวเสริมว่า การสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 ซึ่งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และ ทอท.ได้ศึกษาและมีความเห็นในเรื่องพื้นที่ที่เหมาะสมสอดคล้องกัน คือบริเวณรอยต่อระหว่างอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมขอให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงความจำเป็นและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ตอนนี้ก็มีพื้นที่ทั้งหมด 5 พื้นที่ แต่ละแห่งก็มีข้อมูล ข้อเท็จจริงและเหตุผลแตกต่างกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชน เรื่องของการเวนคืน เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ส่วนเรื่องงบประมาณไม่มีข้อจำกัด และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพหลัก ที่จะเป็นสื่อกลางในการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน และทุกคนต้องให้ความร่วมมือ ซึ่งท่าน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็บอกว่าขณะนี้มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ทุกคนก็ต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาล และทางกระทรวงคมนาคม ได้มองว่าในปีหน้า นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประมาณ 150 ล้านคน ส่วนในประเทศ จำนวน 30 ล้านคน ที่จะต้องใช้ทางอากาศ ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องชาวเชียงใหม่ว่าจะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน สิ่งเหล่านี้จะเป็นโอกาสในการพัฒนาให้จังหวัดเชียงใหม่ความเจริญเติบโตในด้านต่างๆ ต้องมาร่วมกันคิดและพัฒนา ซึ่งรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม รวมถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่หากประชาชนชาวเชียงใหม่พร้อม เราก็เดินหน้าไปด้วยกัน

ปัญหาและอุปสรรคในขณะนี้คือ เรื่องของที่ดินที่พี่น้องมีเอกสารสิทธิ์จำนวนมาก ก็เป็นโจทย์สำคัญที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ต้องเข้าไปช่วยด้วยในเรื่องการทำความเข้าใจ และหัวใจสำคัญที่สุดคือพี่น้องประชาชน ที่เห็นถึงความสำคัญ ก็สำเร็จ แต่หากพี่น้องประชาชนบอกว่า “อยากพัฒนาแต่อย่ามายุ่งกับบ้านฉัน ให้ไปทำที่อื่น” แบบนี้ยากเหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ก็ต้องหันหน้ามาคุยกันก่อน ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ ก็ทำให้เกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด เรื่องนี้ทำการบ้านกันเยอะ “ทุกเรื่อง ไม่มีของฟรีในโลก และไม่มีอะไรที่เราไม่ต้องเสียสละ แต่ถ้าร่วมกันแล้วหาวิธีการที่จะแบ่งเบา เยียวยา บรรเทา ไม่ทิ้งกัน” ทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งการทำสนามบินแห่งที่ 2 ก็คงต้องทำการเวนคืน แต่ได้มีการสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เหมือนกันว่า มีพื้นที่สาธารณะหรือไม่ อาจจะไม่อยู่ใกล้ แต่อาจจะอยู่ไกลกว่านี้อีกหน่อย แล้วสร้างเส้นทางคมนาคมเข้าไป เพราะทุกจังหวัดนั้นมีที่ดินสาธารณะอยู่แล้ว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ผู้ที่รู้ดีที่สุดก็คือพี่น้องชาวเชียงใหม่ ที่จริงโครงการจะเกิดขึ้นได้ทุกคนต้องร่วมกันทั้งหมด

ขณะเดียวกันได้มอบนโยบายให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้ประชาชนและผู้ใช้บริการได้รับบริการที่ดี รวมทั้งกำกับดูแลราคาจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายในท่าอากาศยานให้เหมาะสม หรือมีทางเลือกให้แก่ผู้โดยสารผู้ใช้บริการ

นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุทธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า พื้นที่ที่มีการสำรวจมีทั้งหมด 5 พื้นที่คือ อำเภอแม่ริม, ดอยหล่อ, สันป่าตอง, สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน แต่พื้นที่ที่พิจารณาอยู่มี 2 พื้นที่คือ อำเภอสันกำแพงจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน โดยมีการพิจารณาทั้งหมด 7 ข้อ 1.สิ่งกีดขวางทางอากาศ, 2.สิ่งพลุกพล่านของโครงการ, 3.การขยายตัวในอนาคต, 4.เงินลงทุน, 5.ผลกระทบสิ่งแวดล้อม, 6.การเชื่อมต่อกับระบบคมนาคมอื่นๆ และ 7.ขีดความสามารถของทางวิ่งเที่ยวบินต่อชั่วโมงเป็นอย่างไร

โดยทั้ง 7 หัวข้อที่เป็นการพิจารณา ก็มีผลพิจารณาใกล้เคียงกัน ซึ่งรอยต่อระหว่างบ้านธิ จ.ลำพูน และ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ น่าจะเป็นพื้นที่ที่เหมาะที่สุด สำหรับพื้นที่ใช้งานประมาณ 7,000 ไร่ ได้เพียงแค่ 1 รันเวย์ แต่หากจะให้เหมาะสมต้องประมาณ 11,000 ไร่ ถึงจะได้ 2 รันเวย์ ซึ่งเป็นผลการศึกษา ในปัจจุบันจะอยู่ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะเป็นคนพินิจหรือกำหนดว่า พื้นที่ไหนจะเหมาะสมที่สุด ก่อนจะนำเสนอต่อรัฐบาลว่า สมควรจะเวนคืนเมื่อไหร่ อย่างไร ทางรัฐบาลคงต้องออกกฎหมายเวนคืน ส่วนทาง ทอท.ได้เสนอตัวว่ามีความพร้อมที่จะเป็นหนึ่งในโอเปอร์เรเตอร์ที่จะเข้าไปบริหารจัดการสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 แต่เราไม่มีข้อกฎหมาย หรืองบประมาณในการเวนคืน และตอนนี้มีการแพลนไว้กว้างว่าพื้นที่ไหนเหมาะสม ยังไม่ได้ชี้ชัดว่าพื้นที่ไหนอย่างไร