(มีคลิป) กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน Thailand King Fruit paradise พร้อมจับมือเว็บ อาลีบาบา ส่งผลไม้ไทยให้โด่งดังทั่วโลก

27 พ.ค. 2018
1014
Social Share

กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน Thailand King Fruit paradise Magnet market @ chiang Mai กระตุ้นการบริโภคผลไม้ไทย และจับมือเว็บไซต์ อาลีบาบา ส่งผลไม้ไทยออกขายแบบออนไลน์จนโด่งดังทั่วโลก

กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเอกชน จัดงาน Thailand King Fruit paradise Magnet market @ chiang Mai ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 23 มิถุนายน 2561 ที่ บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า เมญ่าไลฟ์สไตล์ ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานดังกล่าว โดยมีนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ มีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าจากจังหวัดต่างๆ นำผลิตภัณฑ์สินค้ามาจำหน่ายจำนวนมาก

การจัดงานครั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนและสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการบริโภคผลไม้ภายในประเทศ สร้างโอกาสและช่องทางการจำหน่ายผลไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป ทั้งนี้ ภายในงาน มีกิจกรรมมากมาย อาทิ บุฟเฟ่ต์ผลไม้ ประกอบด้วย ทุเรียน มังคุด เงาะ สละ มะม่วง ลำไย สับปะรด ส้มโอ แตงโม แคนตาลูป มะพร้าว ชมพู่ ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วง ให้รับประทานได้ไม่อั้นตลอด 1 ชั่วโมงเต็ม ในราคา 399 บาท เริ่มตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 22.00 น. สามารถเลือก ชิม ช้อป ผลไม้ต่าง ๆ ทั้งสดและแปรรูป จากทั่วทุกภูมิภาค การแข่งขัน การสาธิตเมนูอาหาร และการแสดงอีกมากมาย ตลอดการจัดงาน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดที่จับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและชาวไทย เมื่อเขาเข้ามาแล้วได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ดังนั้น ปีที่แล้ว “ทุเรียน” จึงเป็นสินค้าตัวแรกที่ถูกเลือก เพื่อให้ชาวจีนและนักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติของทุเรียนไทย กิจกรรมที่เกิดขึ้นนั้นในปีที่ผ่านมา ได้จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และในภูมิภาค ซึ่งในส่วนภูมิภาคนั้น จังหวัดเชียงใหม่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เพราะจังหวัดเชียงใหม่มีนักท่องเที่ยวมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน

 

เมื่อหนึ่งปีผ่านไปกระแสทุเรียนก็ยังมาแรง อีกทั้งปีที่แล้วมี “หน้ากากทุเรียน” และกระทรวงพาณิชย์ก็เป็นกลุ่มแรกที่เอาหน้ากากทุเรียนมาโปรโมท จนดังไปทั้งประเทศ ปีนี้ก็โชคดีที่มีกระแส “ออเจ้า” มาช่วยอีกครั้ง และมาแรงมากกว่า เพราะมีการค้าสมัยใหม่ ด้วยการที่กระทรวงพาณิชย์ ได้จับมือกับเว็บไซต์ จำหน่ายสินค้าออนไลน์ระดับโลกอย่าง อาลีบาบา (Alibaba) และได้ขายทุเรียนจากสวนไปถึงมือผู้บริโภคซึ่งเป็นชาวจีน จนโด่งดังไปทั้งประเทศจีนและทั้งโลก ทุกวันนี้ยังมีคนพูดกันว่า “ขายทุเรียน 80,000 ลูกใน 1 นาที” กระแสอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) จะมาแรง ทำให้ราคาจำหน่ายทุเรียนที่สวนแพงขึ้น ราคา 30 บาทต่อกิโลกรัม

 

กิจกรรมในวันนี้เหมือนกิจกรรมเล็กๆ แต่ไม่เล็ก เพราะกระแสทุเรียนและกระแสอีคอมเมิร์ซ กำลังเปลี่ยนผลไม้ไทย ซึ่งผลไม้ไทยเป็นผลไม้ที่ดีที่สุดในโลก ในเรื่องของผลไม้เมืองร้อน และไม่มีเหตุผลที่พี่น้องเกษตรกรของประเทศไทยจะไม่ได้เป็นผู้นำระดับโลกของผลไม้เมืองร้อน พิสูจน์ให้เห็นแล้วจาก “ทุเรียน” และมีผลไม้อื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงปีที่แล้ว “ลำไย” ราคาตกต่ำ พี่น้องชาวสวนเดือดร้อน ปีนี้จึงได้มาแก้ไขปัญหาตั้งแต่เริ่มแรก โดยจะมีการผลักดันและวางจำหน่ายในเว็บไซต์ อาลีบาบา (Alibaba) ที่เป็นการค้ารูปแบบใหม่มาเชื่อมโยงเกษตรกรกับการค้ารูปแบบใหม่ ที่จะไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศได้รวดเร็ว

ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนมาเที่ยวกว่า 35 ล้านคน ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนไป รวมถึงการจำหน่ายลำไย ก็จะมีการขายแบบเป็นต้น แบบเหมาทั้งต้นในราคา 4,000 บาท การันตีไม่ต่ำ 100 กิโลกรัมต่อต้น จะเก็บเองก็ได้ หรือให้เก็บให้แล้วส่งถึงบ้านเลย แล้วหากใครจะมาเที่ยวชมสวนก็ตั้งแต่ออกดอกติดช่อเลยก็ได้ ทำให้เป็นการส่งเสริมทั้งการจำหน่ายผลผลิตและการท่องเที่ยวไปพร้อมกัน แล้วนำกระแสอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) มาใช้ ส่งจากสวนถึงผู้บริโภคผ่านเว็บไซต์อาลีบาบา โดยไม่ต้องถูกกดราคา แล้วเมื่อนักท่องเที่ยวชอบ เกษตรกรก็จะมีรายได้ที่ดี เมื่อนักท่องเที่ยวทานผลไม้ที่ซื้อจากเว็บ ก็จะคิดถึงประเทศไทย