วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

SUN เดินหน้าอัพกำลังผลิตตามแผนกลยุทธ์ ทุ่ม 150 ลบ. สร้างอาคารผลิตใหม่เสริมแกร่งยอดขายในประเทศ

Social Share

SUN เดินหน้าอัพกำลังผลิตตามแผนกลยุทธ์ ทุ่ม 150 ลบ. สร้างอาคารผลิตใหม่เสริมแกร่งยอดขายในประเทศ

บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ “SUN” เดินหน้าโครงการลงทุนก่อสร้างอาคารผลิต อาคารสำนักงาน และติดตั้งเครื่องจักรเพื่อสินค้าพร้อมรับประทาน (RTE) โดยร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือ (LOI) ในการก่อสร้าง กับ บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด หรือ “KPI” (บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ดันรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 10%

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 SUN ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตร ภายใต้ตราสินค้า KC ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือ (LOI) ก่อสร้างอาคารและสถานที่สำหรับรองรับการผลิตอาหารพร้อมรับประทาน กับ KPI ผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการก่อสร้างโรงงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตอาหารมาอย่างยาวนานมากว่า 30 ปี โดยอาคารผลิตตั้งอยู่บนพื้นที่บริษัท SUN จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิต ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2567 นี้

 

นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า SUN ให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล และมุ่งในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันสินค้าพร้อมรับประทาน RTE ซึ่งวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ เป็นสินค้าสำคัญที่สร้างรายได้จากในประเทศให้เติบโต โดยในปี 2567 บริษัทมีเป้าหมายในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มของสินค้าพร้อมรับประทานเพื่อสุขภาพ ให้มีความหลากหลาย และยกระดับการผลิตสินค้าเดิมให้มีคุณภาพและปริมาณการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารและสถานที่สำหรับรองรับการผลิตอาหารพร้อมรับประทาน งบประมาณการลงทุนกว่า 150 ล้านบาท สอดรับกับความต้องการสินค้าพร้อมรับประทานจากลูกค้าในประเทศที่มีปริมาณสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตั้งเป้ารายได้สินค้าพร้อมรับประทานเติบโตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 % นอกจากนี้ยังรองรับการผลิตสินค้า RTE ในกลุ่มของมันหวานและถั่วลายเสือ ซึ่งจะมีการพัฒนา Shelf life ให้มีอายุ 1 ปี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน ในปี 2568