สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เลือกนายกยางคนใหม่ ในประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566
วันที่ 28 เมษายน 2566 สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ผ่านระบบออนไลน์ Zoom เวลา 14.00-16.00 น. โดยมีวาระการประชุมเพื่อพิจารณายุทธศาสตร์สมาคมฯ และสรุปผลงานสมาคมฯในช่วงที่ผ่านมา โดยมียุทธศาสตร์ 5 ด้าน แบ่งเป็น
- ด้านการพัฒนายางคุณภาพให้ตรงกับความร้องการของตลาด
- ด้านการวิจัยและพัฒนาด้านวิชาการยาง
- ด้านการรวบรวมคาร์บอนเครดิตในสวนยาง
- ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
- ด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์
ที่ประชุมได้มีการพิจารณาในการสรรหานายกสมาคมฯคนใหม่หลังจากที่หมดวาระลง โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ ดร.อุทัย สอนหลักทรัพย์ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย โดยจะดำรงตำแหน่ง 3 ปี (2566-2568) นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติให้อำนาจ นายกสมาคมฯ คนใหม่ไปแต่งตั้งที่คณะปรึกษา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และคณะกรรมการสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ซึ่งจะได้มีการพิจารณาร่วมกันในการประชุมครั้งต่อไป
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ มุ่งนั้นในการสร้างเด็กรุ่นใหม่เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ในการพัฒนาด้านนวัตกรรมยางในเขตพื้นที่ EEC โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ได้มีการพิจารณาเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการประเมินคาร์บอนเครดิตในสวนยาง และกิจกรรมด้านความรับชอบต่อสังคม ( CSR) เริ่มจากโรงงานยางและขยายผลไปยังโรงงานทั่วไปในเขตพื้นที่ EEC รวมทั้งการสื่อสาร และมีมติที่จะมีการจัดงานมหกรรมยางพารา ไทย -จีน ในเขตพื้นที่EEC ครั้งที่ 2 ด้วย
เรื่องมาใหม่
- กกต.แม่ฮ่องสอน บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้การดำเนินการให้ได้มาซึ่ง สมาชิกวุฒิสภา
- โก โฮลเซลล์ ร่วมกับ แคลิฟอร์เนีย มิลค์ บอร์ด จัดกิจกรรมเวิร์กช้อป ชวน เชฟดัง “ภูเบศวร์ ชูประคอง” เผยเคล็ดลับสร้างเมนู เพิ่มมูลค่า ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่
- รพ.สต.บ้านซาง อ.แม่ริม นำชาวบ้านบริหารร่างกายตามศาสตร์มณีเวชสร้างสมดุลกระดูก แก้ปัญหาปวดไหล่ ปวดต้นคอ นิ้วล็อค
- (คลิป) เริ่มแล้ว “งานแปดเป็งไหว้สาพระเจ้าตนหลวงครบรอบ 533 ปี” อุ้มพระอุปคุตจากน้ำ ประเพณีงานบุญอันยิ่งใหญ่ของล้านนาในอดีตของจังหวัดพะเยา
- พ่อเมืองสามหมอกเยี่ยมชม “โครงการธนาคารข้าว แห่งแรกของโลก” พร้อมผลักดันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม