วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

Save กู้ชีพ กู้ภัยแม่ฮ่องสอน ออกแถลงการณ์ ยันบุคคลขายรถกู้ภัยบริจาค ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายพันธมิตรกู้ชีพ-กู้ภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน

Social Share

Save กู้ชีพ กู้ภัยแม่ฮ่องสอน ออกแถลงการณ์ ยันบุคคลขายรถกู้ภัยบริจาค ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายพันธมิตรกู้ชีพ-กู้ภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน

วันที่ 15 มีนาคม 2567 แถลงการณ์ จากเพจสมาคมกู้ชีพ – กู้ภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุ จากกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรกู้ชีพ-กู้ภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรื่องที่ มีบุคคลภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอนกระทำการนำของที่รับบริจาคไปขายต่อ ตามที่สื่อโซเชียลและสำนักข่าวหลายสำนักได้นำเสนอข่าวออกไปแล้วนั้นและได้เกิดความเสื่อมเสียกับทางเครือข่ายพันธมิตรกู้ชีพ-กู้ภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน สมาคมกู้ภัยร่วมแม่ฮ่องสอน(ขุนยวม) สมาคมปายสามัคคีการกุศล สมาคมกู้ชีพ-กู้ภัยแม่สะเรียง ขอยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวของกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว และ ขอยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเครือข่ายพันธมิตรกู้ชีพ-กู้ภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน และไม่ได้อยู่ในระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดแม่ฮ่องสอน และขอแสดงจุดยืนว่าสิ่งของที่ได้รับบริจาคมานั้นทางเครือข่ายพันธมิตรได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือโดยไม่ได้นำไปใช้เป็นของส่วนตัวแต่อย่างใด จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความเข้าใจผิดให้กับทางเครือข่ายพันธมิตรเป็นอย่างมาก จึงต้องออกมาแถลงการณ์ถึงจุดยืนขององค์กรในเครือข่ายไม่สนับสนุนหรือมีส่วนในเรื่องดังกล่าว จึงมาชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกัน

สืบเนื่องจาก วันนี้หลายคนได้มีการแชร์ส่งต่อเรื่องราวฉาวโฉ่ หนุ่มกู้ภัยถูกหลอกซื้อรถกู้ภัยและอุปกรณ์ตัดถ่างที่ได้จาการรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือคนอื่น จนเป็นข่าวคึกโครมและทุกคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ติดตามและแชร์ข้อความกันไปอย่างแพร่หลายทำให้เสื่อมเสียถึงภาพลักษณ์ของกลุ่มเครือข่ายกู้ชีพ – กู้ภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ด้าน หนุ่มกู้ภัยที่รับซื้อ “รถตู้-อุปกรณ์ตัดถ่าง” ยันมารู้ที่หลังว่าเป็นของที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมด โดยได้มีการโพสต์ข้อความชี้แจ้งลงในเฟสบุคส่วนตัวชื่อ “ไมตรี แถวฉิมพลี” ระบุเรื่องราวต่างๆ ของการซื้อขายรถยนต์และอุปกรณ์ตัดถ่าง โดยระบุว่า ในตอนแรกอีกฝ่ายทักเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนมาเพื่อที่จะขายรถกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ของตัวเอง ฝ่ายนั้นขอมาที่ 200,000 บาท แต่ตนเองไม่สะดวกที่ราคานี้ เพราะเอาไปทำกำไรต่อไม่ได้ จึงตกลงราคากันได้ที่ 105,000 บาท พร้อมให้เอารถมาส่งให้ นายไมตรี บอกต่อว่า พอรถมาถึง ตนเห็นแล้ว จึงอยากจะเก็บรถคันนี้เอาไว้ใช้เอง เพื่อเอาไปวิ่งช่วยเหลือคน จึงเอาอุปกรณ์ไซเรนของตัวเองติดตั้งบนรถทั้งหมด และลองเอารถออกไปวิ่ง แต่พอวิ่งออกไปได้สักพัก ความร้อนมันขึ้น น้ำในหม้อน้ำดันออกมา ตนเลยโทรไปคุยกับอีกฝ่ายว่าเครื่องยนต์รถมันมีปัญหานะ จะช่วยอย่างไรได้บ้าง สุดท้ายตนจึงเสนอไปว่า ค่าซ่อมตนจะจัดการเอง แล้วให้อีกฝ่ายช่วยออกค่าอินเตอร์ 5,000 บาท แต่อีกฝ่ายก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าเงินอยู่กับพ่อ ตนก็แปลกใจ เพราะวันที่เขาเอารถมาขาย เขาบอกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ตนก็ไม่อะไร พอถึงเวลาจะจ่าย อีกฝ่ายก็บ่ายเบี่ยง ตนเลยตัดสินใจโพสต์ขายอุปกรณ์ตัดถ่าง ซึ่งตนตั้งใจจะเอามาขายอยู่แล้ว จะเก็บไว้แค่รถ หลังโพสการขายอุปกรณ์ตัดถ่าง จึงได้รู้ความจริงว่า ทั้งรถทั้งอุปกรณ์เป็นสิ่งของที่ได้รับการบริจาคมาทั้งสิ้น ซึ่งนายไมตรีขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดทั้งสิ้นอแค่ซื้อมาเพื่อจะทำกำไรต่อและเอามาไว้ช่วยคนเท่านั้นขอให้สังคมเข้าใจด้วย ซึ่งตนเองติดต่อกับคนขายเพื่อคืนรถและขอเงินคืน แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ

ขณะที่ทางสื่อมวลชนในพื้นที่ได้พยายามติดต่อน้องกู้ภัย และ เดินทางไปยังจุดที่ตั้งกู้ภัยเวียงงามบ้านหนองป่าแขม ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พบว่างเปล่าไม่มีรถหรือคนอยู่ จึงติดต่อผ่านทางเฟสบุค “ส.ท.ข้าวโอ๊ต” เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเหตุการณ์ดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนเองยอมรับผิด คิดแค่ต้องการเพียงนำเงินมาทำรถใหม่เท่านั้น และ ไม่สะดวกที่จะพูดคุยรายละเอียดต่างๆ ในตอนนี้ หากพร้อมจะติดต่อกลับภายหลัง

Cr. สุกัลยา บัวงาม