(คลิป) ห้วยตึงเฒ่าเชียงใหม่ สอนเด็กดำนาเรียนรู้นอกห้องเรียน พร้อมชวนขี่ควายเดินบนแปลงนาเรียนรู้วิถีชีวิตดั้งเดิม

Social Share

12 มิ.ย. 63 : พันเอกสุปกรณ์ เรือนสติ ผู้จัดการสำนักงานโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ตามพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมดำนาปลูกข้าว บริเวณนาข้าวจุดชมวิวคิงคอง ภายในอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ตามพระราชดำริ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีประชาชนและเด็กนักเรียน รวมถึงนักท่องเที่ยว เข้ามารวมกิจกรรมครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมแบบ New Normal ที่ทุกคนต้องเว้นระยะห่าง มีการสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือก่อนที่จะเข้ามารวมกิจกรรม มีการตรวจวัดอุณหภูมิด้วย ซึ่งพื้นที่แปลงนาหลังครอบครัวหุ่นฟางข้าวคิงคอง มีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ นอกจากนาข้าวและหุ่นฝางครอบครัวคิงคอง พร้อมเพื่อนๆ สัตว์หุ่นฟางแล้ว ยังมีขัวแตะหรือสะพานไม้ไผ่ กระต๊อบหรือกระท่อม ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพัก ชมวิว และถ่ายภาพด้วย

พันเอกสุปกรณ์ เรือนสติ ผู้จัดการสำนักงานโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ตามพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปลูกข้าวในแหล่งเรียนรู้ครั้งนี้ ได้ดำเนินการมาเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านมาจะมีเด็กนักเรียน ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก แต่ในครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมไปบ้าง เพราะอยู่ในช่วงการป้องกันไวรัสโควิด-19 ดังนั้น ได้ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องมีการเว้นระยะห่าง การใช้เจลกอฮอล์ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ สวมใส่หน้ากากอนามัย และเพื่อลดความแออัด จึงได้จำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้เพียงแค่ 50 คนเท่านั้น สำหรับข้าวที่ปลูกในครั้งนี้ เป็นข้าวเหนียมพันธุ์สันป่าตอง 1 โดยใช้ระยะเวลาในการปลูกรวมทั้งหมด 3 เดือน 10 วัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเก็บเกี่ยวข้าวได้ประมาวันที่ 20 ต.ค. 63 นี้ ซึ่งข้าวที่ได้มา ก็จะนำแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงกับอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีการจำหน่าย แต่จะนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้อยู่ในเขตพื้นที่ทหาร และยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชาวนา ภูมิปัญญาดั้งเดิมของการทำนา ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการปลูกข้าวเพื่อจำหน่าย แต่เน้นไปที่การเรียนรู้ของเด็ก นักเรียน เยาวชน ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว ไม่ให้ลืมวิถีชีวิตดั้งเดิม

การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะจัดทั้งหมด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 – 14 มิ.ย. 63 หากประชาชน หรือเด็กนักเรียนที่สนใจ ก็มาร่วมกิจกรรมได้ และยังเปิดโอกาสให้เด็กนักเรียน ได้สัมผัสการเลี้ยงควาย การขี่ควายด้วยว่า คนในอดีตใช้ควายทำนาแบบไหน และเปิดโอกาสให้ได้ขี่ควายเดินเล่นบริเวณแปลงนาอีกด้วย