วันอังคาร, 14 พฤษภาคม 2567

(มีคลิป) ยอมแล้ว เกือบ 4 ปีการต่อสู้บ้านป่าแหว่ง กรมธนารักษ์ รับมอบพื้นที่บ้านพักตุลาการ 45 หลัง พร้อมครุภณฑ์กว่า 1,866 ราย

Social Share

ยอมแล้ว เกือบ 4 ปีการต่อสู้บ้านป่าแหว่ง กรมธนารักษ์ รับมอบพื้นที่บ้านพักตุลาการ 45 หลัง พร้อมครุภณฑ์กว่า 1,866 ราย คืนผืนป่าให้ดอยสุเทพ ป่าศักดิ์สิทธิ์ของคนเชียงใหม่ ด้านเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ยืนยันต้องรื้อเท่านั้น พร้อมเตรียมเข้าไปปลูกป่า ลบภาพป่าแหว่งบนดอยสุเทพต้นเดือน มิ.ย. 65

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 27 เม.ย. 65 กรมธนารักษ์ ตัวแทนศาลอุทธรณ์ภาค 5 มณฑลทหารบกที่ 33 และเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ร่วมกันตรวจสอบครุภัณฑ์ภายในบ้านพักข้าราชการตุลาการ ในศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณเชิงดอยสุเทพ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จากนั้นคณะได้เดินทางไปตรวจบ้านพักหลังใหญ่ ราคาหลังละ 9 ล้านบาท ซึ่งอยู่บนพื้นที่สูงสุดของโครงการบ้านพัก ภายในบ้านมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องรับรอง พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน มีระเบียงที่มองเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจนแบบ 360 องศา โดยพื้นที่บ้านพักตุลาการมีทั้งหมด 45 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 85 กว่าไร่ ด้านหลังสำนักงานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างลาดชันเพราะอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ

 

ต่อมา นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้รับมอบกุญแจบ้านพักทั้ง 45 หลัง จากตัวแทนของศาลอุทธรณ์ภาค 5 โดยมีนายธีรศักดิ์ รูปสุวรรณ แกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพและสมาชิก ร่วมเป็นสักขีพยานการรับมอบครั้งนี้ พร้อมหารือเพื่อเตรียมเข้าไปดำเนินการปลูกป่าบนพื้นที่ 85 ไร่ เพื่อฟื้นฟูป่าดอยสุเทพให้กลับมาเป็นป่าที่สมบูรณ์อีกครั้ง

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า วันนี้กรมธนารักษ์มารับมอบพื้นที่และครุภัณฑ์จากทางศาล จากนั้นจะตรวจสอบครุภัณฑ์จำนวน 1,866 รายการ เพื่อดำเนินการตามระเบียบและส่งมอบให้หน่วยงานราชการต่างๆนำไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งจะดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการเข้ามาปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ โดยจะเป็นไปตามมติของคณะกรรมการระดับจังหวัดที่จะพิจารณา ส่วนการทวงคืนพื้นที่อาคารชุดอีก 19 หลัง จะต้องหารือกันอีกครั้ง แต่วันนี้จะดำเนินการรับมอบพื้นที่บ้านพักทั้ง 45 หลังก่อน ส่วนจะมีการรื้อถอนหรือไม่นั้น จะต้องหารือกันในรายละเอียดก่อน และจะมีการบูรณะและแก้ไขอย่างไรต่อไปก็ขึ้นอยู่กับทางคณะกรรมการจังหวัดที่มีอยู่ ในวันนี้ที่รับมอบมาก็เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าได้ในการที่จะปฏิบัติการต่อไป ซึ่งในส่วนที่รับมอบและรายละเอียดว่ามีเท่าไหร่ การนับพื้นที่ก็จะมีการพูดคุยกับส่วนที่เกี่ยวข้อง สำนักงานศาลยุติธรรม และทางกองทัพบก หลังจากนั้นก็มาว่ากันตามระเบียบว่าหน่วยไหนเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งส่วนราชการใดที่ต้องการนำไปใช้ประโยชน์ก็ว่ากันต่อไป ส่วนไหนที่ไม่จำเป็นที่หน่วยงานราชการนำไปใช้ประโยชน์ก็จำหน่ายออกไปตามระเบียบ หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจังหวัดที่มีการแต่งตั้งขึ้นมาเป็นผู้พิจารณาให้สอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ ตอนนี้ต้องการให้ผลประโยชน์กับทุกฝ่าย

วันนี้จำนวน 85 ไร่ ในพื้นที่บ้านของ 45 หลัง และในส่วนของคอนโดก็ว่ากันต่อไป และทางกลุ่มเครือข่ายที่ต้องการให้มีการรื้อถอนบ้านพัก 45 หลังนี้ จะทำการรื้อถอนหรือไม่ ก็ต้องให้ทางคณะกรรมการจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาและทราบว่าทางกลุ่มเครือข่ายก็อยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย ในเรื่องของความกังวลว่าจะมีผู้ชุมนุมประท้วงใหญ่อีกครั้งเพื่อต้องการให้ดำเนินการกับคอนโดที่เหลือในเรื่องนี้ ก็จะมีการพูดคุยกับทางคณะกรรมการอีกครั้งเช่นกัน ในตอนนี้มารับมอบและดำเนินการในเฟสนี้ก่อน ส่วนเฟสต่อไปก็ต้องพิจารณากันไปตามระเบียบขึ้นตอน ขอให้ส่วนพื้นที่เฟสแรกนี้เข้ามาดำเนินการได้ก่อน เพื่อผลประโยชน์กับทางราชการและของพี่น้องประชาชนทุกฝ่าย

ขณะที่ทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า ไม่มีอำนาจในการให้ข่าว เป็นหน้าที่ของทางสำนักงานศาลยุติธรรมที่จะเป็นผู้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ด้าน นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ แกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า หลังจากที่รอมาเกือบ 4 ปี ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 29 เม.ย. 2561 อีกไม่กี่วันจะครบ 4 ปี ทางเครือข่ายก็รู้สึกยินดี และขอบคุณทางศาลและทางธนารักษ์ แม้ว่าจะได้รับคืนส่วนบนก่อนที่เป็นบ้านพักจำนวน 45 หลัง และในอีก 1 เดือน ก็จะมาทำพิธีปลูกป่าประมาณต้นเดือนมิถุนายน และมีพิธีฮ้องขวัญ หรือเรียกขวัญดอยสุเทพ สำหรับประเด็นว่าจะรื้อหรือไม่ แต่มติของเครือข่ายคือต้องการให้รื้อบ้านพักศาลเท่านั้น แต่ติดขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อาคารเหล่านี้มาอยู่ที่ธนารักษ์แล้วและก็เข้าสู่คณะกรรมการจังหวัดในการพิจารณา หากไม่สามารถรื้อตามกฎหมายได้ก็อาจจะฟ้องศาลปกครองอีกครั้ง จากตามมติของคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี สรุปว่าต้องรื้อบ้านพัก 45 หลังนี้ พร้อมกับคอนโด 9 หลัง แต่ในส่วนของคอนโดเรายังไม่ได้รับคืน และคงจะให้เวลากับทางศาลอีก 4 เดือน จะครบกำหนดในวันที่ 7 ก.ย. 2565

ขณะที่มีการประชุม ครม.ที่จังหวัดลำปาง โดยขอให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโด 9 หลังอาศัยอยู่ไปก่อนจนกว่าศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่จังหวัดเชียงรายจะก่อสร้างเสร็จ ในวันที่ 7 ก.ย. 65 แต่ตอนนี้ติดปัญหาเพราะว่าการก่อสร้างนั้นทำมาได้เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ และมีปัญหาการยุติสัญญาปรับสัญญาการก่อสร้างที่ทางผู้รับเหมาโดนค่าปรับ เป็นเงินกว่า 59 ล้านบาท คาดว่าทำต่อไม่ได้แน่นอนและจะยืดเยื้ออีกหลายปีแน่นอน แต่ทางเครือข่ายจะยึดเอาวันที่ 7 ก.ย. เป็นหลักและอาจจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในคอนโด 9 หลังค่อยๆ ทะยอยย้ายออกไป และขอคืนพื้นที่ส่วนนั้นด้วยเพื่อจะได้เริ่มทำการปลูกป่า เพราะถือว่าดอยสุเทพเป็นดอยศักดิ์สิทธิ์ คนเชียงใหม่ก็ติดตามข่าวนี้มานานมาก เราต้องการมาปลูกป่าลบรอยแหว่งตรงนี้เพื่อให้ป่าดอยสุเทพกลับคืนมา ขอความเห็นใจทางหน่วยงานราชการและทางศาลเข้ามาปลูกป่า และให้ป่าผืนนี้เป็นป่าที่สมบูรณ์เป็นที่เคารพรักของชาวเชียงใหม่ อันมีพระธาตุดอยสุเทพคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ที่ชาวเชียงใหม่เคารพยิ่งกลับคืนมา

สำหรับวิธีที่ปลูกป่าโดยไม่ต้องทำการรื้อก็จะเป็นการเสี่ยงสำหรับวงการยุติธรรม เพราะเป็นหลักฐานการประจาน หากไม่รื้อแล้วเด็กรุ่นหลังต่อมาเข้ามาเห็นก็จะบอกว่าเป็นผลงานของท่าน บางคนแนะนำว่าไม่ต้องรื้อและปล่อยให้เป็นอนุสรณ์ แต่ทางเครือข่ายยืนยันว่าจำเป็นต้องรื้อถอน มีความมุ่งมั่นที่จะรื้อ ส่วนเรื่องคอนโด 9 หลังที่เหลือ ในอาทิตย์หน้าจะมีการเข้าไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวอีกครั้ง และทางศาลตอนนี้ก็มีท่าทีที่ดีขึ้น ก็จะมีการพูดคุยและหาทางออกกันต่อไป

นายบัณรส บัวคลี่ หนึ่งในแกนนำเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า หลังจากนี้ก็อยากจะขอให้พื้นที่ป่าใกล้กับบริเวณบ้านพักศาลกลายเป็นสถานที่พักผ่อนของคนเชียงใหม่กลับคืนมา ในอดีตนั้นเป็นสถานที่วิ่งเทรลและปั่นจักรยาน แต่เกือบ 4 ปีแล้ว พื้นที่แห่งนี้มีการห้ามให้เข้ามาใกล้ ก็อยากจะให้กลับมาเหมือนเดิม การเป็นจุดพักผ่อนของคนเชียงใหม่

เรื่องมาใหม่