เชียงใหม่ ผนึกกำลังทุกภาคส่วนแก้ปัญหาฝุ่นควันในอากาศ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปอด

Social Share

จังหวัดเชียงใหม่ ผนึกกำลังทุกภาคส่วนแก้ปัญหาฝุ่นควันในอากาศก่อนเข้าสู่ฤดูแล้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการและป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปอดและเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน

วันนี้ (22 พ.ย. 65) ที่ชุมชนโหล่งฮิมคาว บ้านมอญ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายประดิษฐ์ สีใส ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 นายแพทย์กาจบัณฑิต สุรสิทธิ์ ผู้แทน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ และนางสาวสุรีรัตน์ ตรีมรรคา รองประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ ได้ร่วมกันเสวนาในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่สัญจรประเด็นหมอกควันไฟป่ากับโอกาสการเกิดโรคมะเร็งปอดของคนเชียงใหม่

โดย นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ขอความร่วมมือประชาชนที่คิดจะเผาเศษวัสดุ เผาป่า เพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม ขอให้คำนึงถึงสุขภาวะปอดของตนเอง ลูกหลาน และผู้สูงอายุด้วย ซึ่งนอกจากปัญหาหมอกควันไฟป่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย โดยในปีนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้เริ่มดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพื่อให้ปัญหาถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุย และนำไปสู่การแก้ปัญหาโดยเร็ว นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังมีนโยบายที่จะทำบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน หาข้อตกลงในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง การแบ่งปันความรู้และนวัตกรรม เทคโนโลยี ระหว่างกัน

 

ด้านสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 นายประดิษฐ์ สีใส ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 กล่าวว่า ในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้เพิ่มสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศจากเดิม 4 แห่ง เป็น 6 แห่ง เพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันในช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะถึงนี้ได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยังได้เพิ่มความเข้มข้นด้านการตรวจวัดควันดำ การเผาในที่โล่ง การเผาขยะมูลฝอย รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการ ที่อาจะเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดมลพิษในอากาศ

 

ขณะเดียวกัน นายแพทย์กาจบัณฑิต สุรสิทธิ์ ผู้แทน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ได้เปิดเผยถึงอัตราการเป็นโรคมะเร็งปอดของคนเชียงใหม่ และคนในภาคเหนือ ว่ามีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีอันดับที่อยู่ในระดับสีแดง คือเกิน 25 รายต่อแสนประชากร ปัญหาฝุ่นควัน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ก่อมะเร็งปอด โดยค่าฝุ่นควัน 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เท่ากับการสูบบุหรี่ 1 มวน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากากอนามัยและป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด เมื่อออกภายนอกบ้านหรืออาคาร

ในส่วนของภาคประชาชน นางสาวสุรีรัตน์ ตรีมรรคา รองประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ กล่าวว่า ภาคประชาชนได้มีการเริ่มขับเคลื่อนการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ตั้งระดับหมู่บ้าน ตำบล และผลักดันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึง เพื่อทำให้ประชาชนอยู่ในภาวะปลอดฝุ่นและมีสุขภาพที่ดี