วันจันทร์, 2 มิถุนายน 2568

เชียงใหม่ รอง หน.พรรคพลังประชารัฐ พบปะว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคเหนือตอนบน 34 เขต ไม่หวั่น ส.ส.ย้ายพรรค

เชียงใหม่ รอง หน.พรรคพลังประชารัฐ พบปะว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคเหนือตอนบน 34 เขต ไม่หวั่น ส.ส.ย้ายพรรค มุ่งเป้าให้ได้ สส. 120 เสียง ยืนยัน บิ๊กป้อม ยังฟิตเปรี๊ยะพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี

วันที่ 23 พ.ค. 68 ที่ร้านสิบสองปันนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ นายภัครธรณ์ เทียนไชย รองเลขาธิการพรรคในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งพรรคฯได้พบปะกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จาก 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, ลำพูน, น่าน, แม่ฮ่องสอน, พะเยา และแพร่ ซึ่งมี อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย อาทิ นายสันติ ตันสุหัช อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ 3 สมัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม ปัจจุบันสังกัด พรรครวมไทยสร้างชาติ, นายวิทยา ทรงคำ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ 5 สมัย และอดีตเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, นายพรชัย อรรถปรียางกูร อดีตส.ส.เชียงใหม่เขต 3 พรรคไทยรักไทยและเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ, นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ส.ส.เชียงใหม่ 2 สมัย อดีตกรรมการบริหารพรรคความหวังใหม่ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ, นายถาวร เกียรติไชยากร อดีต ส.ว.เชียงใหม่, นายพจนารถ ศรียารัณย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ, นางศรีพรรณ เขียวทอง อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่เขต 2 พลังประชารัฐ และ นายยุทธนา สุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พลังประชารัฐ นอกจากนี้ยังมีอดีตผู้สมัคร ส.ส.และเป็นอดีตสมาชิกสภาจังหวัด อดีตสมาชิกสภาเทศบาลในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนเข้าร่วมพบปะหารือในครั้งนี้ด้วย

นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นรองหัวหน้าพรรคฯและดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ซึ่งตนเป็น อดีต ส.ว.ครั้งนี้ ได้ลงพื้นที่พร้อมกับ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีและเป็นรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง 77 จังหวัดของพรรค ได้ขอ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ แล้วว่า ถ้าได้ตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 34 เขตเลือกตั้งแล้ว จะขอไปช่วยคัดสรรว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอื่นด้วย โดยใช้เครือข่ายเมื่อครั้งที่เป็น อดีต ส.ว.ด้วย ซึ่งปัจจุบันพรรคพลังประชารัฐมี ส.ส.อยู่ 19 คนและเป็นฝ่ายค้าน และแม้ไม่ได้เป็นรัฐบาลแต่ก็ยังยึดเรื่องการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นสำคัญ

การลงพื้นที่เพื่อหาตัวว่าที่ผู้สมัครครั้งนี้เป็นการเตรียมการ แม้จะรู้ว่าเมื่อใครได้เป็น ส.ส.แล้วก็ไม่อยากให้มีการยุบสภา แต่ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นการเตรียมการไว้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเค้าลางมันก็มีมาอยู่เรื่อยๆ แต่บางทีมีเค้าแต่ฝนก็ไม่ตกเฉยๆ ก็มี และไม่มีใครรู้ว่าจะมีฝนตกลงมาตอนไหน ส่วนเรื่องที่ ส.ส.ของพรรคเราย้ายพรรคและถูกดูดไป พลเอกประวิตรหัวหน้าพรรคเราไม่ได้ติดใจและเป็นห่วงอะไร ถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะมันขึ้นอยู่กับกระแสและนโยบาย ถ้าหากมีการเลือกตั้งเมื่อใดประชาชนเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะอำนาจอยู่ในมือของประชาชน หัวหน้าพรรคบอกว่าเลือกตั้งครั้งต่อไปอยากได้ 60 ที่นั่ง แต่ผมอยากได้ 120 เพื่อที่เราจะได้เป็นคนจัดตั้งรัฐบาล

รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่ออีกว่า พลังประชาชนมีนโยบายชัดเจนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน ปกป้องสถาบัน ไม่แก้มาตรา 112 และไม่เอาคาสิโน พลเอกประวิตรไม่เคยเป็นเผด็จการ อนาคตจะร่วมพรรครัฐบาลไหนก็ได้ที่จะต้องไม่แก้ ม.112 เพราะไม่เกี่ยวกับปากท้องของประชาชน และต้องไม่เอาเรื่องของคาสิโน ถึงจะมีนโยบายเดียวกัน และร่วมแนวทางกันได้ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยปฏิวัติแต่ท่านเป็นทหาร ซึ่งก็มีอดีตทหารหลายคนที่เกษียณแล้วออกมาตั้งพรรคการเมือง แม้พลเอกประวิตร จะอายุ 80 ปีแล้ว แต่ท่านยังแข็งแรงแม้จะตกบันไดถึง 4 ชั้นแต่ก็ยังเดินได้ปร๋อ ถ้าท่านไม่รัก ไม่ห่วงประชาชนก็คงไม่มาทำพรรคการเมือง

ขณะนี้ยังพบว่า เด็กเกิดใหม่มีจำนวนน้อยลง ก็ต้องส่งเสริม ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐก็มุ่งเน้นนโยบายนี้มานานแล้ว ทั้งการส่งเสริมเรื่องของการมีบุตร ตามโครงการมารดาประชารัฐ ซึ่งผมสนใจมากในโครงนี้ เพราะบุตรธิดาน้อย มีผู้สูงอายุมากขึ้น จึงส่งเสริมให้มีบุตรธิดากันเยอะๆ ตั้งแต่เดือนแรก จนถึงคลอด จะมีเงินในการดูแลเดือนละ 3,000 บาท หากคลอด ก็มีช่วยเหลือในการทำคลอด 10,000 บาท คลอดมาแล้ว ก็มีเงินในการช่วยเลี้ยงดูเดือนละ 2,000 บาท ตลอดระยะเวลา 6 ปี ส่วนผู้สูงอายุ ก็มีเบี้ยผู้สูงอายุที่มากขึ้น อายุ 60 ปี ได้ 3,000 บาท อายุ 70 ปี ได้ 4,000 บาท และอายุ 80 ปี ได้ 5,000 บาท แต่นโยบายนี้จะเกิดขึ้นได้ทางพรรคพลังประชารัฐต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้น

วันนี้การเมืองวุ่นวาย แต่พรรคพลังประชารัฐเรานิ่ง เราเคยวุ่นวายมาก่อน เพราะตอนนี้เราเปลี่ยนโลโก้ใหม่และมีคนที่มีคุณวุฒิเข้ามามากมายและพร้อมที่จะเลือกตั้งตลอดเวลา ยุทธศาสตร์สำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งของเราคือมีความจริงใจและจริงจังในการช่วยเหลือปากท้องของประชาชน เป็นพรรคอนุรักษ์นิยม ทันสมัยและลดช่องว่างระหว่างชนชั้น