วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ แจ้งความรุ่นพี่ทำร้ายขณะรับน้อง

Social Share

3 พ.ย. 62 : จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา ทางเพจเฟซบุ๊ก ” รับน้องสร้างสรรค์ระดับโคตรมหากาฬ ” ได้เผยแพร่ภาพและข้อมูลของนักศึกษาและผู้ปกครอง ที่มีเนื้อหาว่า ถูกรุ่นพี่รับน้องจนทำให้น้องมีแผลตามตัว และในข้อความบางส่วนได้อ้างว่า มีเฟซชี่บางคนถูกรุ่นพี่รับน้องจนขาหัก ซึ่งข้อความดังกล่าว มีคนแชร์ไปกว่า 1,400 ครั้ง มีการโพสต์แสดงความคิดเห็นไม่ต่ำกว่า 941 ครั้ง

ต่อมาทางเฟซบุ๊คของ “Maejo University มหาวิทยาลัยแม่โจ้” ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 62 เรื่องคำชี้แจงกรณีข่าวในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการทำร้ายนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมีข้อความว่า ไม่มีนโยบายจัดกิจกรรมรับน้องนอกเหนือจากที่มหาวิทยาลัยกำกับดูแล หากทำนอกเหนือจากที่มหาวิทยาลัยกำหนด ถือว่ามีโทษทางวินัยนักศึกษา และผู้กระทำผิดจะถูกตัดคะแนนความประพฤติ พักการศึกษา หรือไล่ออก ซึ่งได้ออกประกาศในมาตรการการควบคุมดูแลการพัฒนานักศึกษา และบทลงโทษที่ชัดเจน พร้อมจะเร่งดำเนินการจัดการผู้กระทำความผิดตามมาตรการควบคุมดูแลการพัฒนานักศึกษา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายโดยเร็วที่สุด

ทางด้าน นางลลิตภัทร ปันธิโย อายุ 48 ปี ที่อยู่ 408/7 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ผู้ปกครอง น้องโฟล์ค หนึ่งในนักศึกษาที่ระบุว่าถูกรับน้องในลักษณะดังกล่าว ได้เปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายของตนเป็นอีกเคสที่เกิดขึ้นจากการรับน้องในมหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งได้เรียนที่ สาขาประมง ทรัพยากรทางน้ำ โดยร่องรอยของการถูกทำร้ายนั้นมีรอยแดงจากการถูกรุ่นพี่ที่ทำกิจกรรมนั้นตีด้วยมืออย่างรุนแรง ซึ่งก่อนหน้านี้จากที่ทราบข้อมูลจากลูกชายระบุว่ารุ่นพี่ได้มีการทำกิจกรรมรับน้องที่เรียกว่า 7 วันอันตราย ซึ่งจัดขึ้นหลังจากมหาวิทยาลัยได้มีการเปิดเทอม

จากการจัดกิจกรรมดังกล่าวลูกชายก็ทนทำกิจกรรมจนผ่านมาได้ แต่หลังจากนั้นทางรุ่นพี่ก็ยังมีการจัดกิจกรรมรับน้องอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ และเห็นว่ากิจกรรมที่ทำนั้นมีความรุนแรง ทารุณรุ่นน้อง จึงได้เอามาแอบเล่าให้กับทางผู้ปกครองฟัง เนื่องจากก่อนทำกิจกรรมทางรุ่นพี่ได้มีการให้รุ่นน้องสาบานว่าจะไม่เอาเรื่องราวการจัดกิจกรรมนั้นไปเผยแพร่ให้ใครทราบแม้กระทั่งผู้ปกครอง แต่เนื่องจากลูกชายของตนทนไม่ไหวจึงเอามาเล่าพร้อมทั้งได้มีการส่งภาพร่องรอยที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายให้ดูด้วย

โดยได้ส่งภาพมาเมื่อค่ำคืนเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค.62 ที่ผ่านมา และเมื่อตนเห็นภาพก็ถึงกับตกใจว่าทำไมที่มหาวิทยาลัยดังกล่าวจึงมีการจัดกิจกรรมรับน้องที่รุนแรง จากนั้นจึงได้ตัดสินใจนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ในช่วงเช้าของวันที่ 5 ต.ค.62 ที่ผ่านมา แต่ทางตำรวจแจ้งว่าการดำเนินการดังกล่าวจะต้องไปพูดคุยกับทางมหาวิทยาลัยเสียก่อน จึงจะสามารถดำเนินการกับคนที่กระทำความผิดได้ และเมื่อตนได้เข้าไปพูดคุยกับทางมหาวิทยาลัยแต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น จึงได้มีการตัดสินใจนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโพสต์เพื่อต้องการเรียกร้องให้ทางมหาวิทยาลัยมีการตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แม้ว่าทางมหาวิทยาลัยนั้นจะมีการติดป้ายว่าไม่ส่งเสริมให้มีการรับน้องรุนแรง หรือไม่สร้างสรรค์แล้วก็ตาม แต่ก็มีรุ่นพี่บางกลุ่มยังละเมิดกฎและแอบเอารุ่นน้องไปทำกิจกรรมในที่ลับตาคนซึ่งเป็นข้อมูลที่ตนได้ทราบจากลูกชายมาทั้งหมด

ขณะเดียวกันหลังจากเกิดเรื่องและผ่านมาถึงตอนนี้ก็ยังพบว่าไม่มีความคืบหน้า และตนจึงได้ตัดสินใจให้ลูกชายทำการยื่นใบลาออกกับทางมหาวิทยาลัยแล้วด้วย เพราะกลัวว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็จะมีผลกระทบกับลูกชาย แม้ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะถือเป็นธรรมเนียมที่รุ่นพี่ถือปฏิบัติกันมาต่อเนื่องก็ตาม แต่ตนก็เห็นว่ามันเป็นการกระทำที่รุนแรงและทารุณมากเกินไป และแม้ว่าจะมีนักศึกษาที่ทนได้ก็ตาม โดยตอนแรกตนนั้นสนับสนุนให้ลุกชายเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้อย่างเต็มที่เพราะเนื่องจากลูกชายตั้งใจจะมาเรียนที่สาขานี้อีกทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ลูกชายได้โควต้าด้วย แต่สุดท้ายกลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้จึงทำใจยอมรับไม่ได้ ส่วนการดำเนินการนั้นยังคงรอทางมหาวิทยาลัยเซ็นอนุมัติการยื่นใบลาออกอยู่ และต้องยอมให้ลุกชายดรอปเรียนไป 1 ปี จากนั้นจึงจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอื่นอีกครั้งอย่างไรก็ตามจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนอยากให้ทางมหาวิทยาลัยมีการตรวจสอบและแก้ไขกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักศึกษาที่ตั้งใจเข้ามาเรียนอีกในอนาคตด้วย

ต่อมาพันตำรวจเอก ณฐภณ แก้วกำเนิด ผู้กำกับการ สภ.แม่โจ้ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่โจ้ นำผู้ปกครอง และผู้เสียหายชี้จุดเกิดเหตุที่รุ่นน้องถูกทำร้าย ภายในมหาวิทยาลัย หลังจากนั้น ผู้กำกับการ สภ.แม่โจ้ ได้เชิญอาจารย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมผู้ปกครองของรุ่นน้องมาพูดคุยหาทางออก โดยฝ่ายอาจารย์มหาวิทยาลัยแม่จ้า ได้กล่าวว่าที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เนื่องจากขณะก่อเหตุนักศึกษาที่ถูกทำร้ายจำหน้ารุ่นพี่ที่ลงมือทำร้ายไม่ได้ เมื่อเรียกรุ่นพี่มาสอบถามทุกคนต่างปฏิเสธ ทำให้ยังไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดได้ และพร้อมจะนำรายชื่อรุ่นพี่ทั้งหมดมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผู้กำกับการ สภ.แม่โจ้ กล่าวว่าที่ผ่านมาไม่ได้รับความร่วมมือจากอาจารย์แม่โจ้ เท่าที่ควรโดยอ้างว่านักศึกษาอยู่ในช่วงการปิดภาคเรียนจึงติดต่อนักศึกษาไม่ได้ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จะได้ขอรายชื่อนักศึกษารุ่นพี่ ทั้งหมด ที่เข้าร่วมรับน้องในวันดังกล่าวและเตรียมออกหมายเรียกเพื่อสอบปากคำ