วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

(มีคลิป) ผอ.โรงพยาบาลเชียงคำ แจงกรณีศพเด็กทารกแรกเกิดหาย เข้าใจผิด ไม่มีการทำคุณไสย ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19

Social Share

ผอ.โรงพยาบาลเชียงคำ แจงกรณีศพเด็กทารกแรกเกิดหาย โดยสื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่ามีการนำไปทำคุณไสย เกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ส่วนเด็กเสียชีวิตด้วยหัวใจพิการหลังคลอด ไม่ได้ติดเชื้อโควิด19 อย่างที่เป็นข่าว

ที่ห้องทำงานนายอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา นายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำ ได้เชิญส่วนที่เกี่ยวข้อง กรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวศพเด็กทารกแรกเกิดใน รพ.เชียงคำหาย อ้างถูกนำไปทำเป็นลูกกรอกขายราคาหลักแสนบาทนั้น ส่งผลให้หลายๆฝ่ายไม่สบายใจโดยเฉพาะโรงพยาบาลเชียงคำที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวซึ่งมี พญ.ลดาวรรณ หาญไพโรจน์ ผอ.รพ.เชียงคำ พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ น.ส.นันทนา รักกอบชัย ผู้ประนีประนอมประศาลจังหวัดพะเยา และทีมกู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ มาชี้แจงทำความเข้าใจ ในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่อำเภอเชียงคำ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าปล่อยให้มีการนำศพทารกไปทำคุณไสยได้อย่างไร

พญ.ลดาวรรณ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนส่งผลให้ ภาพลักษณ์ รพ.เชียงคำเสียหาย ทำลายขวัญกำลังใจทีมแพทย์ พยาบาล ตลอดจนมีการนำภาพบุคลากรไปเผยแพร่ทางสื่อโดยไม่ได้รับการอนุญาตอีกด้วย โดยลำดับเหตุการณ์ว่า เด็กทารกไม่ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด19 ส่วนแม่ของเด็กเคยติดเชื้อโควิดหลังตั้งครรภ์ได้ 20 สัปดาห์ และมาคลอดตามปกติ แต่เด็กคลอดมาแล้วมีอาการตัวเขียว ทราบว่าเด็กมีหัวใจพิการ ทีมแพทย์ พยาบาลพยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มกำลังสามารถ และเตรียมส่งต่อเด็กไปที่ รพ.เชียงรายประชานะเคราะห์ แต่อาการเด็กไม่ดีขึ้น ผ่านประมาณ 3 ชั่วโมง เด็กเสียชีวิต โดยปกติศพผู้ใหญ่ทาง รพ.จะมีถุงซิปใส่ แต่ถุงขนาดทารกไม่มีจึงใส่ถุงแดง นำไปเก็บไว้ที่ตู้เย็นห้องเก็บศพตามปกติ

 

พญ.ลดาวรรณ กล่าวต่อว่า หลังมีข่าวทางสื่อมวลชนว่าศพทารกหาย สงสัยว่าจะถูกนำไปทำคุณไสย จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ทราบว่า หลังเด็กทารกเสียชีวิต พ่อของเด็กได้ว่าจ้างให้ รปภ.รพ.เชียงคำ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือสัปเหร่อ ของ รพ.อีกด้านหนึ่ง เนื่องจากบุคลากรเรามีจำกัดพียงคนเดียว โดย รปภ.ดังกล่าวมาช่วยงานหลังเวลาราชการ ในการนำศพที่เสียชีวิตไปเก็บรักษาที่ห้องเก็บศพ ระหว่างนั้นได้มีการตกลงกับพ่อศพทารก มอบให้ รปภ.นำศพไปดำเนินการตามประเพณี โดย รปภ.ได้นำศพทารกเข้าไปเก็บไว้ที่ตู้เย็นห้องเก็บศพ ซึ่งจะนำไปจัดการตามประเพณีในวันรุ่งขึ้น ขณะเดียวกันทางปู่ของทารก ก็ได้ติดต่อทีมกู้ภัย ให้ช่วยดำเนินการเรื่องศพทารก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ประกอบกับทางสัปเหร่อโทรศัพท์แบตหมด ไม่สามารถติดต่อกับทาง รปภ.ได้ จึงเป็นที่มาของการหาศพไม่เจอเนื่องจาก รปภ.ก่อนออกเวร ได้นำศพออกไปวางไว้ด้านหลังห้องเก็บศพเพื่อรอนำไปดำเนินการตามที่ได้รับมอบจากพ่อศพทารก

 

หลังจากทราบข้อเท็จจริงแล้ว ทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการแก้ปัญหา กรณีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับห้องเก็บศพ ห้ามเป็นธุระเกี่ยวกับการจัดพิธีต่างๆ เกียวกับศพโดยให้ญาติดำเนินการเอง เพื่อป้องกันข้อครหาเรียกรับเงินจากญาติ พร้อมกันนี้ได้มีประกาศ ข้อกำหนดเกณฑ์ในการเข้าไปในห้องเก็บศพและการนำศพออกต้องมีเอกสารครบถ้วน

ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง สภ.เชียงคำ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลว่า ช่วงปีที่ผ่านมาไม่มีการแจ้งความเด็กหายหรือขโมยศพเด็กแต่อย่างใด นอกจากนี้ได้ส่งชุดสืบสวนออกไปหาข่าว ไม่พบสำนักไสยศาสต์หรือสำนักคุณไสยในทำนองนี้ในพื้นที่ ส่วนตัวแทนกู้ภัย ก็ยอมรับว่า หลังจากมีการชี้แจงจาก ผอ.โรงพยาบาลเชียงคำ ก็เข้าใจรู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนระหว่างญาติกับกู้ภัย และภาติกับ รปภ. พร้อมให้ความร่วมมือกับทางโรงพยาลด้วยดีต่อไป ส่วนศพทารกได้ทำการฌาปนกิจไปเรียบร้อยแล้ว