วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

(มีคลิป) เชียงดาว รวมใจจิตอาสา​ปลูก​ต้นไม้​เฉลิมพระเกียรติ​ฯ 1,010 ต้น พื้นที่ 10 ไร่

Social Share

เชียงดาว รวมใจจิตอาสา​ปลูก​ต้นไม้​เฉลิมพระเกียรติ​ฯ 1,010 ต้น พื้นที่ 10 ไร่ เพื่อฟื้นฟูป่าไม้ให้เป็นสมบัติของประเทศชาติ

เมื่อ​เวลา​ 09.30 น.วันที่​ 26 ก.ค. 65 นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการ​สำนักจัดการ​ทรัพยากร​ป่าไม้​ที่ 1 (เชียงใหม่)​ เป็น​ประธาน​กิจกรรม​จิต​อาสา​พัฒนา​การ​ปลูก​ต้นไม้​เฉลิมพระเกียรติ​เนื่องในโอกาส​วันเฉลิมพระชนมพรรษา​ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทธิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2565 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพ้นปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 โดยมี พระราชวิสุทธิญาณ​ เจ้าคณะ​จังหวัด​เชียงใหม่​-ลำพูน​-แม่ฮ่องสอน​(ธ)​เป็น​ประธาน​ฝ่ายสงฆ์​ นนายสงงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเถอเชียงดาว​ นายอิสระ ศิริไสยาสน์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เชียงดาว วัดพระธาตุดอยวิสุทธิญาณ, ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเชียงดาว, ผู้บังคับการตำรวจตะเวนชายแดน ภาค 3, ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 ค่ายพิชิตปรีชากร, ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 (ฉก.ม.4), เคลื่อนที่ 32 สำนักงานพัฒนาภาค 3 (นปค.32 สนภ.3), นายกเทศมนตรีเทศบาล, ผู้บังคับการหน่วยพัฒนาการตำบลปิงโค้ง, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงดาว, ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปางมะเยา, อำนวยการโรงเรียนบ้านปางเฟือง, ผู้อำนวยการโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว, กำนันตำบลปิงโค้ง,มูลนิธิส่งเสริมปลูกป่าในใจเราสโมสรโรตารี่เชียงใหม่นวรัฐ และผู้ใหญ่บ้านแม่บ้านแม่มะกู้หมู่ที่ 12 รวมถึงนักเรียน​ในพื้นที่​เข้าร่วม​กิจกรรม​ในครั้งนี้​ ณ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว บริเวณบ้านแม่มะกู้ หมู่ที่ 12 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

สืบเนื่องจากกรมป่าไม้ได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติห้วงเดือนมหามงคล (มิถุนายน-สิงหาคม 2565) ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ บรมราชินี 3 มิถุนายน 2565 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 บริเวณป่าสงวนแห่งชาติในเขตพื้นที่รับผิดชอบหรือสถานที่อื่นที่เห็นสมควร สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2565 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 ณ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว บริเวณบ้านแม่มะกู้ ติดกับวัดพระธาตุดอยวิสุทธิญาณ หมู่ที่ 12 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1,010 ต้น ประกอบด้วย​ต้นพะยอม​ ยางนา ประดู่​ป่า โดยพื้นที่​แห่งนี้เดิมมีลักษณะพื้นที่เป็นป่าเสื่อมสภาพเนื่องจากถูกบุกรุกแผ้วถางเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ จึง​ได้จัดกิจกรรม​ในครั้งนี้​ ด้วยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อสร้างจิตสำนึกและให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ก่อให้เกิดความรักและหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

พระราชวิสุทธิญาณ​ เจ้าคณะ​จังหวัด​เชียงใหม่​-ลำพูน​-แม่ฮ่องสอน​(ธ)​ กล่าวว่า วัดดอยวิสุทธิญาณแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนเชียงดาว ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมา เนื่องจากภายในวัดแห่งนี้มีเจดีย์และโบราณสถานอายุไม่ต่ำกว่า 500 ปี และเล็งเห็นว่าป่าไม้มีความสำคัญอย่างมาก พระภิกษุสงฆ์ที่อาศัยอยู่ในวัดป่ามีจิตใจในการดูแลรักษาป่าอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วยกันปลูก ช่วยกันดูแล เช่นวัดแห่งนี้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ป่า ในวันนี้ก็ได้ร่วมกับหน่วยงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชน รวมถึงนักเรียนในเขตพื้นที่ พร้อมใจกันปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อฟื้นฟูป่าไม้และให้เป็นสมบัติของประเทศชาติ ทุกวันที่อยู่ในป่าก็จะมีกองทุนในการดูแลพื้นที่ป่า รวมทั้งวัดยังเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน เมื่อประชาชนมีความทุกข์ไม่สบายใจ ก็จะเข้าวัดมากราบไหว้เพื่อให้เกิดความสงบทางกาย ทางใจ โดยเฉพาะวัดป่าเมื่อประชาชนมาอยู่ในสถานที่ธรรมชาติ ก็จะมีสภาพจิตใจที่ดี สงบ ทางวัดก็มีการให้ความรู้กับประชาชนในการปลูกฝังการอนุรักษ์ป่า ปลูกต้นไม้ พื้นที่ไหนที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่า เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลไม่ได้ทำอะไร ก็แนะนำให้ปลูกต้นไม้ ช่วยกันดูแลให้เกิดความร่มรื่น เมื่อถึงช่วงฤดูแล้งก็ให้ความรู้กับประชาชนว่าควรจะป้องกันไฟไหม้ป่าอย่างไร ปีนี้ก็เป็นเรื่องดีที่มีฝนมาก ทำให้ไฟไหม้ป่าน้อยลง