เรียนฟรี !! พร้อมรับค่าครองชีพตลอดหลักสูตร มทร.ล้านนา สร้างความเสมอภาคด้านการศึกษา เปิดรับนักเรียน-นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เข้ารับ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง”
วิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ล้านนา เปิดรับสมัครนักเรียน/นักศึกษา ที่กำลังศึกษาในระดับ ม.3 ม.6 และ ปวช.3 หรือ เทียบเท่า ที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส(ตามหลักเกณฑ์ของ กสศ.) เพื่อรับ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” ในสาขาเตรียมวิศวกรรมศาสตร์(หลักสูตร ปวช.3 ปี) สาขาอิเล็กทรอนิกส์การแพทย์ (หลักสูตร ปวส.ต่อเนื่อง 2 ปี) และ สาขาเทคนิคยานยนต์ไฟฟ้า (หลักสูตร ปวส.ต่อเนื่อง 2 ปี) โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษาตลอดหลักสูตร พร้อมทั้งได้รับค่าครองชีพเดือนละ 6,500 บาท (ระดับ ปวช.) และ 7,500 บาท (ระดับ ปวส.) ตลอดหลักสูตร
สำหรับ“ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง”ที่มหาวิทยาลัยฯ ได้จัดตั้งขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนนักเรียน/นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส ให้ได้รับการศึกษาหรือได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือ เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพตามความถนัด มีศักยภาพที่จะพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิต และสามารถต่อยอดองค์ความรู้สู่สังคมชุมชน ตลอดจนเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้านอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ต่อไป
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครผ่าน QR code หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อาจารย์สิทธิศักดิ์ ยี่ยวน โทร.081-1786675 ,อาจารย์วัชรพงศ์ โพธา โทร.081-1639834 และ งานวิชาการ วิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มทร.ล้านนา โทร.082-7086800
เรื่องมาใหม่
- แม่สะเรียง เส้นทางโรงเรียนชายขอบ ยังวิกฤตครูชาวบ้าน เดินทางนับ 10 ชม. ฝ่ากองดินสไลด์ถนนเละ ยกรถข้ามน้ำ
- น้ำสาละวินเพิ่มสูงขึ้น อบต.แม่สามแลบ ขอความร่วมมืองดเดินเรือเพื่อความปลอดภัย
- อบต.ขุนแม่ลาน้อย เร่งเปิดเส้นทางดินสไลด์ ถนนเขตรอยต่อบ้านฟักทอง ต.ขุนแม่ลา – บ้านปางหินฝน หลังพายุฝนกระหน่ำไม่หยุด
- อำเภอสบเมย 7 หมู่บ้าน 18 หย่อมบ้าน ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ถูกตัดขาด เส้นทางมีดินสไลด์ ไหล่น้ำกัดเซาะ ต้นไม้หักโค่น ภาวนาอย่าให้มีผู้ป่วยฉุกเฉิน
- อำเภอสบเมย ติดตามสถานการณ์อุทกภัยบ้านเรือนราษฎรริมน้ำยวม จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา”