วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

(มีคลิป) รวบโจรใจบาปหนีคดีจากภูเก็ตมาก่อเหตุลักตู้บริจาคในวัดชื่อดังของเชียงใหม่

Social Share

รวบหนุ่มแพร่หนีคดีลักทรัพย์ที่ภูเก็ต ก่อนมาก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาคในวัดชื่อดังกลางเมืองเชียงใหม่ สุดท้ายไม่รอดถูกรวบตัวได้

ภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ได้บันทึกภาพของชายหนุ่มรูปร่างอ้วนเตี้ย ใส่รองเท้าสีน้ำเงินแถบล่างสีขาว กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน สวมหมวกสีขาว สวมแว่นสายตา ในมือถือถุงพลาสติกไว้ 1 ใบ เดินเข้ามาภายในวัดวัดอินทะขิล (สะดือเมือง) ถนนอินทวโรรส ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงที่เดินเข้ามาก็หันไปมองรอบๆ อยู่หลายครั้ง เมื่อสบโอกาสได้เดินเข้าไปในวิหาร แล้วฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีคน จึงยกตู้รับบริจาคที่มีเงินอยู่ภายในคาดว่าน่าจะกว่า 10,000 บาท หลบหนีออกไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณช่วงเช้าของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

ภายหลังเกิดเหตุทางวัดได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาร่วมตรวจสอบและติดตามหาคนร้าย ล่าสุดในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ท.ตรีเพชร ป่าหวาย สว.สส.สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ ธัญธราดล รอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.อนันต์ พรมมานอก รอง สว.สส.ฯ พร้อมกับพวก ก็สามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุไว้ได้ คือ นายทวน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี เป็นคนจังหวัดแพร่ ขณะที่กำลังเดินถือถุงพลาสติกอยู่บนฟุตบาทริมถนนบุญเรืองฤทธิ์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เห็นว่าลักษณะการแต่งกายเหมือนคนร้ายที่ก่อเหตุจึงได้รีบเข้าไปควบคุมตัวและทำการสอบสวนเบื้องต้น ก็ยอมรับสารภาพ ก่อนจะพาเจ้าหน้าที่ไปเอาตู้บริจาคที่ถูกทุบทิ้งไว้บริเวณไซต์งานก่อสร้าง ใกล้กับกองกษาปณ์ เมื่อได้ของกลางแล้ว จึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองเชียงใหม่

นายทวน ยอมรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วที่ จ.แพร่ เมื่อพ้นโทษก็ไปที่ จ.ภูเก็ต แล้วเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาก็พึ่งก่อเหตุลักทรัพย์ เพราะเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่และมีกุญแจเสียบทิ้งไว้ ซึ่งอ้างว่ายืมไปซื้อของก่อนนำมาคืน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับไว้แล้ว จากนั้นก็ได้หลบหนีมาที่ จ.เชียงใหม่ ไม่มีเงินใช้ จึงได้เข้าไปในวัดเห็นว่าไม่มีคนจึงได้ลงมือก่อเหตุยกตู้บริจาคออกมาแล้ว นำมาทุบที่ไซต์งานก่อสร้าง เอาเงินที่ได้ไปซื้อของกิน บางส่วนก็เอาไปซื้อสร้อยเงิน แหวนเงิน จนเหลือเงินติดตัว 30 บาท ช่วงที่เดินอยู่บนถนนก็มาถูกเจ้าหน้าที่

ภายหลังการตรวจสอบประวัติย้อนหลังและการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในที่บูชาสาธารณะและรับของโจร” จากนั้นได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป