วันเสาร์, 27 เมษายน 2567

(มีคลิป) โลกโซเชียลแห่ชื่นชม ผอ.โรงเรียนขุนแม่ตื่น อมก๋อย กับชาวบ้านผ่าทะเลโคลนนำเด็กป่วยส่งโรงพยาบาล

Social Share

โลกโซเชียลแห่แชร์เฟสบุ๊ค ของผู้อำนวยการโรงเรียนขุนแม่ตื่นน้อย อำเภออมก๋อย ที่ได้ร่วมกับชาวบ้านขุดและปรับผิวถนน ที่เต็มไปด้วยดินโคลนจากการที่ฝนตกหนัก ทำให้การนำเด็กนักเรียนที่มีอาการเจ็บป่วย ไปส่งโรงเรียนได้ยากลำบาก เพราะต้องลุยถนนที่เติมไปด้วยโคลนกว่า 9 กิโลเมตร โดยมีการโพสต์ข้อความว่า “ร่วมกับคณะครูชาย พ่อหลวง ชาวบ้าน เยาวชน เคลียร์เส้นทาง ดินสไลด์ปิดถนนก่อนถึงบ้านวาโซทะ (โค้งหินหลวง) ให้รถส่งคนป่วยลงแม่ตื่นผ่าน เนื่องจากครูและนักเรียน ไม่สบายหลายคน #สามัคคีคือพลัง ช่วงนี้เส้นทางอื่นหนักหนาสาหัสกว่าเราเยอะ ทางนี้ยังชิลล์ค่ะ ตอนนี้ทางนี้ยังไหวไม่ต้องห่วงนะคะ” ขณะที่ครูในโรงเรียนก็ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกอีก ทำให้แพทย์ต้องลุยทะเลโคลนขึ้นไปช่วยรักษาทั้งครูและนักเรียนอีก 30 รายที่เจ็บป่วย เนื่องจากไม่สามารถเดินทางลงไปรักษาได้ทั้งหมด โลกโซเชียลแห่ชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังขาดยาแก้ไอ ยาทากันยุง เพื่อนำมาดูแลเด็กๆ ภายในโรงเรียน และบุคลากรของโรงเรียนที่เจ็บป่วย ส่วนรถที่นำมาใช้เป็นรถส่วนตัว ต้องมาทำเป็นรถปฏิบัติราชการ ทั้งซื้ออาหารเพื่อดูแลเด็ก รับอุปกรณ์ สื่อการเรียน การสอน เพื่อนำมาสอนเด็ก หากเกิดความเสียหายก็ต้องออกค่าซ่อมเอง ไม่สามารถเบิกจากหน่วยงานด้านการศึกษาได้ ทั้งนี้ ยังทางโรงเรียนยังขาดแคลนรถเพื่อใช้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะประสบปัญหาค่าซ่อมที่มีราคาสูงมากขึ้น กับเส้นทางที่ทรหด ต้องเจอเป็นประจำทุกปี

ด้าน นางอำไพ มณีวรรณ ผอ.โรงเรียนขุนแม่ตื่นน้อย เปิดเผยว่า ช่วงนี้เด็กและครูที่โรงเรียนมีอาการเจ็บป่วยกันเยอะ เพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง มีฝนตกเกือบตลอด สภาพของโรงเรียนที่อยู่กับธรรมชาติ มีป่าเขาล้อมรอบ ก็ทำให้มียุงเยอะ และเด็กนักเรียน รวมถึงครูก็เริ่มมีอาการเจ็บป่วย ขณะนี้มีเด็กป่วยกว่า 30 ราย มีครูที่ป่วยไข้เลือดออก 1 คน คือ คุณครู นิชา ปานะดิษฐ์ และที่ตนได้แชร์ภาพลงเฟสบุ๊คนั้น ก็เป็นวันพุธ ที่ 7 สิงหาคม ขณะที่ ตนร่วมกับคณะครูชาย พร้อมด้วยชาวบ้าน และเยาวชนในพื้นที่ เปิดเส้นทางเพื่อนำเด็กไปส่งโรงพยาบาล เพราะเด็กมีอาการป่วยที่หนัก จึงต้องรีบรักษา แต่การเดินทางค่อนข้างลำบาก เมื่อฝนตกก็ทำให้ถนนที่เป็นดิน กลายเป็นดินโคลนสูง รถสัญจรไปมาลำบาก

ต่อมาทางโรงพยาบาลแม่แตง ได้ประสานทางโรงพยาบาลอมก๋อย ให้นำแพทย์ขึ้นมาช่วยตรวจสุขภาพให้กับเด็กนักเรียนและคณะครูของโรงเรียน ก็ต้องลุยโคลนกว่า 9 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางน้ำหลาก กว่าจะขึ้นมาถึง ทั้งตรวจสุขภาพของเด็กที่ป่วย และตรวจครูที่ป่วยโรคไข้เลือดออก พร้อมกันนี้ก็ได้ฉีดพ่นควัน เพื่อฆ่ายุง ตรวจสอบแหล่งน้ำขังรอบโรงเรียนเพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ซึ่งต้องขอบคุณทางโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก ที่ได้เสียสละเวลา ที่ต้องเดินทางลำบากขึ้นมารักษาให้

ขณะเดียวกันเด็กที่ป่วย ทางโรงเรียนก็ป้องกันด้วยการนำมุ้งแบบพับได้มาครอบให้กับเด็กที่นอนป่วยอยู่บนเตียง ภายในโรงเรียน เพื่อไม่ให้ยุงมากัดเด็ก และเกรงว่าจะป่วยเป็นไข้เลือดออกอีก ก็สามารถป้องกันได้ ทางโรงเรียนก็ต้องดูแลจนกว่าเด็กจะหายเป็นปกติ

ส่วนตนนั้น รถส่วนตัวที่นำมาใช้ในราชการ ที่ได้นำเด็กเดินทางไปโรงพยาบาลและใช้ในภารกิจต่างๆ ของโรงเรียนก็พัง ซึ่งตนก็ต้องซ่อมแซม และต้องนำค่าใช้จ่ายส่วนตัวเป็นค่าซ่อม เนื่องจากไม่มีรถประจำหรือรถราชการของโรงเรียน จึงจำเป็นต้องนำรถส่วนตัวมาใช้ปฏิบัติการ หากไม่นำมาใช้ก็จะไม่สามารถดูแลในด้านอาหาร สื่อการเรียนการสอน บางครั้งต้องนำเด็กนักเรียนลงไปแข่งขันกีฬา ทักษะทางการศึกษา และทำกิจกรรมนอกพื้นที่ตามที่กระทรวงศึกษาได้แจ้งมา ก็ต้องเดินทางไป รวมถึงค่าน้ำมันก็ต้องออกเอง

ในขณะที่ค่าใช้จ่ายค่าซ่อมรถเริ่มสูงขึ้น หากมีรถประจำโรงเรียนก็จะเป็นเรื่องที่ดี หรือหากใครมีรถต้องการบริจาคก็สามารถติดต่อมาได้ เพราะทางโรงเรียนยังคงขาดแคลนรถที่นำมาใช้ดูแลเด็กนักเรียนในโรงเรียนอยู่ ปัจจุบันรถเพียงคันเดียวที่มีผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย แต่ก็พังบ่อย กับเส้นทางที่ทรหดในการเดินทาง และค่าซ่อมก็สูงขึ้น เมื่อรถเสียก็ต้องนำรถคันอื่นมาใช้ หากเสียอีกก็จำเป็นต้องนำเงินส่วนไปซ่อมบำรุงรักษาให้กลับมาใช้ได้ และอยากขอให้หน่วยงานที่ดูแลเรื่องเส้นทาง หรือผู้เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือพัฒนาพื้นที่ เพราะไม่ใช่โรงเรียนเท่านั้น แต่ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะได้รับประโยชน์หากมีการปรับปรุงเส้นทางนี้

Cr. เฟสบุ๊ค ผอ.โรงเรียนขุนแม่ตื่นน้อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่