ชาวบ้านร่วมกันจับ เฒ่าตัณหากลับ ก่อเหตอนาจารเด็ก 4 ขวบในเชียงใหม่ แม่รีบวิ่งมาช่วยใช้เท้าถีบก่อนเรียกคนมาช่วยจับ

เตือนภัยสังคม จับเฒ่าก่อเหตุลวนลามเด็ก 4 ขวบในเชียงใหม่ โชคดีแม่ได้ยินเสียงลูกร้องไห้ รีบวิ่งมาช่วย ใช้เท้าถีบผู้ต้องหากระเด็นก่อนเรียกคนมาช่วยจับ

เรื่องราวครั้งนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 62 : ร.ต.ท.นนทนันท์ อุ่นเครือ ร้อยเวร สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุอนาจารเด็ก และชาวบ้านช่วยกันจับไว้ได้ เหตุเกิดที่หน้าหอพักชุมพล บ้านแพะ ซอย 2 ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบว่าชาวบ้านจับกุมผู้ต้องหาเป็นชาย อายุ 70 ปี 1 ราย

ตรวจสอบภาพวงจรปิดก็เห็นพฤติกรรมชัดเจนว่า ขณะเด็กกำลังเล่นกับแมวที่หน้าบ้าน เพื่อรอแม่กับพี่สาวออกมา คนร้ายได้เดินมาพบเจอเห็นเด็กวัย 4 ขวบที่เสียหาย และมีการเข้าไปหา ก่อนจะใช้มือเหมือนสอดไปในกระโปรงเด็ก จากนั้นก็ได้อุ้มเด็กไปในลานจอดรถฝั่งตรงข้าม โชคดีมีสุนัขเห่า และเด็กร้อง แม่เด็กได้ยินเสียงลูก ออกมาต้องตกใจเพราะเจอผู้ต้องหากำลังขึ้นคร่อมบนตัวลูก จึงรีบวิ่งเข้าไปใช้เท้าถีบจนผู้ต้องหากระเด็นและช่วยลูกออกมา พร้อมกับตะโกนเรียกให้คนช่วย โชคดีเจ้าของหอพักคือนายชุมพล ศรีวิชัย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามหาคนร้ายจนเจอก่อนเข้าจับและเรียกตำรวจมานำตัวไป

ส่วนตัวผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ไม่ได้ทำอะไรเด็ก ทั้งที่ภาพวงจรปิดจับพฤติกรรมได้ชัดเจน โดยอ้างว่า มีคนบอกว่าเด็กถูกแมวข่วน แมวกัด และให้อุ้มเด็กไปเล่นในที่ร่ม จึงทำตาม และเรื่องเปิดกระโปรงเด็ก เพราะจะดูบาดแผลว่ามีแผลแมวข่วนจริงหรือไม่

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาไว้ก่อนคือ “พรากเด็กไปจากพ่อแม่ และอนาจารเด็ก” จากนั้นได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดี ส่วนเด็กได้ส่งตัวไปตรวจร่องรอยของการถูกกระทำอนาจาร เมื่อได้ผลมาแล้วก็จะนำมาเป็นหลักฐานดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป

ด้านแม่ของเด็ก ให้ข้อมูลว่า ตนกำลังจะนำลูกสาวทั้งสองคนไปทำงานด้วย ขณะที่กำลังจะออกบ้าน ก็หากุญแจอยู่ ส่วนลูกสาวคนเล็กก็ไปเล่นกับแมวที่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่เล่นเป็นประจำ และตนก็ไม่ได้ปิดประตู เพราะหากุญแจเจอก็จะรีบไปทำงานเลย เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ห่างสายตาไปไม่นานก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่า และลูกสาวร้องไห้ จึงรีบออกมาดูก็พบคนร้ายก่อเหตุ จึงรีบวิ่งเข้าไปกระโดดถีบผู้ต้องหาจนกระเด็นออกจากตัวลูกสาว ก่อนจะอุ้มลูกออกมาและตะโกนให้คนช่วย ส่วนคนร้ายได้อาศัยช่วงดังกล่าวกลับมาเอาของที่วางไว้และรีบหลบหนีไป กระทั่งเจ้าของหอพักที่ตนอาศัยอยู่ได้ตามเจอและเรียกตำรวจมาช่วยจับ

ตนอยากฝากเตือนภัยสังคม อย่าปล่อยลูกหลานไว้ แม้เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจเกิดอันตรายได้ หากคนร้ายใช้มือปิดปากลูกคงจะไม่ได้ยินเสียง หรืออุ้มลูกหายออกไป คงจะต้องเสียใจมาก หลังจากนี้คงจะไม่ปล่อยให้ลูกสาวออกห่างจากสายตาอีก