ตำรวจช่วยเสี่ย นักธุรกิจค้าสัตว์ เชียงราย หลังถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ 5 ล้านใน สปป.ลาวได้สำเร็จ

Social Share

ตามที่ด่าน ตม.เชียงแสน ได้รับการประสานจาก สภ.เชียงแสน กรณี น.ส.รสริน วงค์ใหญ่ บุตรสาวของนายสิงห์แก้ว วงค์ใหญ่ นักธุรกิจค้าสัตว์ระหว่างประเทศ สปป.ลาว ให้ประสานกับทางการประเทศ สปป.ลาว เพื่อขอให้ช่วยเหลือ เนื่องจาก เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 62 เวลาประมาณ 12.20 น. นายสิงห์แก้วฯ ได้เดินทางไปยัง สปป.ลาว เพื่อเจรจาธุรกิจกับหุ้นส่วนที่จะร่วมกันสร้างโรงฆ่าสัตว์ใน สปป.ลาว โดยข้ามแดนทางเรือ ไปขึ้นที่ท่าเรือคิงส์โรมัน จากนั้นมี นายสวาท สัญชาติลาว นำรถมารับนายสิงห์แก้วฯ เพื่อพาไปพบนายจุ๋ม และจะพาไปพบกับนักธุรกิจจากจีน (สิบสองปันนา) แต่ระหว่างเดินทางได้มีชาวจีนขับรถปาดหน้า ชิงเอาตัวนายสิงห์แก้วฯ ไป แล้วต่อมา มีการส่งคลิปวิดีโอ ผ่านโทรศัพท์นายสิงห์แก้วฯ มาให้ นางสาว รสรินฯ ซึ่งเป็นบุตรสาว เพื่อให้โอนเงินไปให้ ยอดเงิน 5 ล้านบาท พร้อมบอกหมายเลขบัญชีคนไทย ที่ไปทำธุรกิจที่คิงส์โรมัน โดยมีการโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวไปแล้วบางส่วน

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ สตม.จัดทีมสืบสวน ทั้งจากส่วนกลาง และในพื้นที่ ให้เข้าร่วมในการช่วยเหลือตัวประกันอย่างเร่งด่วน โดยให้มีการประสานการปฏิบัติและบูรณาการกำลังจากทุกหน่วยในพื้นที่ ทั้ง ตำรวจภูธรภาค 5, ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, ตชด, ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นายอำเภอเชียงแสน, ฝ่ายปกครองในพื้นที่, ฝ่ายทหารทั้งในส่วนของ ผบ.นรข. ทหารพราน และตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปราม, บช.ปส. โดยให้ประสานกับทางการ สปป.ลาว อย่างใกล้ชิด

หลังจากได้รับคำสั่ง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.ณัชธกฤต ปิ่้นปัก ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน จัดกำลังฝ่ายสืบสวนเข้าไปประสานกับทางการ สปป.ลาว โดยมี น.อ.วุฒิชัย ภู่เจริญยศ ผบ.นรข., พ.ต.อ.รังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม ผกก.ฯ ช่วยราชการ สตม., นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน และนายสันติ อินทนิล ปลัดอำเภอเชียงแสน ข้ามไปประสานการปฏิบัติกับทางการ สปป.ลาว ให้ช่วยทำการช่วยเหลือหาตัวนายสิงห์แก้วฯ อย่างเร่งด่วน และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

ต่อมาวันนี้ (30 ก.ค. 62) คณะประสานงานร่วม ได้พาภรรยา บุตรสาว บุตรชาย ของนายสิงห์แก้วฯ ข้ามไปยัง สปป.ลาว เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดทางธุรกิจและมูลเหตุที่อาจเป็นชนวนให้ถูกอุ้มไปเรียกค่าไถ่ ขณะเดียวกันทางการ สปป.ลาว ได้เรียกตัวนายสวาทฯ นายจุ๋มฯ หุ้นส่วนบริษัทของนายสิงห์แก้วฯ ที่จะร่วมลงทุนสร้างโรงฆ่าสัตว์ใน สปป.ลาว มาทำการสอบสวนขยายผล

และในวันเดียวกัน พ.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รรท.รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม.5, พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พ.ต.อ.แมน แม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. น.อ.วุฒิชัย ภู่เจริญยศ ผบ.นรข., พ.ต.อ.สถิตย์ พรหมอุทัย, พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์, พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร รอง ผบก.ฯ ช่วยราชการ สตม., นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย ได้นัดประชุมติดตามความคืบหน้าการให้การช่วยเหลือนายสิงห์แก้วฯ ที่ด่าน ตม.เชียงแสน

จากการติดตามสถานการณืได้รับรายงานว่า นายสิงห์แก้วฯ ได้รับการช่วยเหลือจากทางการ สปป.ลาว จนปลอดภัยแล้ว โดยภรรยา บุตรสาว บุตรชาย ได้พบกับนายสิงห์แก้วฯ เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการสอบสวน ขยายผลของทางการ สปป.ลาว ซึ่งฝ่ายไทย กำลังประสานทางการ สปป.ลาว เพื่อขอให้ส่งตัวนายสิงห์แก้วฯ กลับมารักษาตัวในประเทศไทย และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

การติดต่อช่วยเหลือนายสิงห์แก้วฯ จนปลอดภัย ในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมืออันดีของทั้งสองประเทศ ด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และทุกส่วนราชการได้ทำงานบูรณาการกันอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ทุกภาคส่วนจะได้ทำงานร่วมกันและบูรณาการกันอย่างแท้จริง

Cr. ตำรวจภูธรภาค 5