วันศุกร์, 19 เมษายน 2567

3 อำเภอในแม่ฮ่องสอน เตรียมเฮ!! ไม่ต้องกลัวไม่มีไฟฟ้าใช้ในอนาคต รองผู้ว่าการไฟฟ้า เร่งสำรวจขยายไฟฟ้าเพิ่มความมั่นคงในพื้นที่

15 ส.ค. 2020
801
Social Share

3 อำเภอในแม่ฮ่องสอน เตรียมเฮ!! ไม่ต้องกลัวไม่มีไฟฟ้าใช้ในอนาคต รองผู้ว่าการไฟฟ้า เร่งสำรวจขยายไฟฟ้าเพิ่มความมั่นคงในพื้นที่ ตามโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

นายพิศิษฐ์ กิจบุญอนันต์ ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุม การจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อวางแผนขยายเขตไฟฟ้าให้หมู่บ้านในโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยได้รับเกียรติจาก นายเสกสรร เสริมพงศ์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้ารับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชน

นายเสกสรร เสริมพงศ์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2543 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานแนวทางในการเสริมสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดนให้แก่ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น โดยมีพระราโชบายที่จะพัฒนารวมทั้งยกระดับสภาพความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงของหมู่บ้าน

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงได้ทำแผนงานขยายเขตไฟฟ้าให้หมู่บ้านในโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินแผนงาน 5 ปี (ระหว่าง พ.ศ. 2560-2564) ในพื้นที่ อ.เมือง อ.ปาย และ อ.ปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 29 หมู่บ้าน 11 เส้นทาง ระยะทางประมาณ 161 กิโลเมตร โดยมีลักษณะโครงการเป็นการก่อสร้างระบบจำหน่ายไฟฟ้าขนาด 22 กิโลโวลต์ ปักเสาพาดสายไปกับเสาคอนกรึตชนิดเสาเดี่ยว เป็นเสาคอนกรีตอัดแรง มีทั้งหมด 6 ขั้นตอน ได้แก่ การสำรวจพื้นที่และตำแหน่งวางหมุด การก่อสร้างฐานราก การติดตั้งเสาไฟ การวางเสาผ่านทางโค้ง การปักเสาพาดสายไฟฟ้า และตรวจสอบความเรียบร้อย

แต่เนื่องจากการดำเนินการบางช่วงของแนวระบบจำหน่ายไฟฟ้าที่พาดผ่านพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 ระยะทางประมาณ 125 กิโลเมตร จึงจำเป็นที่โครงการจะต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 4 มกราคม 2562 เพื่อนำเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินโครงการ

ดังนั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ฐานะเจ้าของโครงการได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม จึงมอบหมายให้บริษัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท เอ็นไวร์ไซน์จำกัด เป็นผู้ศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ให้ครอบคลุมทั้งด้านทรัพยากรกายภาพ ชีวภาพ การใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และคุณภาพชีวิต อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและสอดคล้องตามแนวทางที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กำหนดไว้ ดยใช้ระยะเวลาสำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อม 15 เดือน ในการศึกษาผลกระทบต่างๆ

โดยเน้นความสำคัญกับการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ตั้งแต่เริ่มต้นศึกษาและดำเนินการโครงกา เพื่อชี้แจงเหตุผล ความเป็นมา วัตถุประสงค์และรายละเอียดโครงการ รวมทั้งขอบเขตการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งตัวแทนจากภาคส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานพยาบาล องค์กรเอกชน ผู้นำภาคประชาสังคม และประชาชน ในพื้นที่โครงการ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อวิตกกังวลต่างๆ อันจะนำไปสู่การพัฒนาโครงการอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นการลดข้อพิพาทในพื้นที่ ลดปัญหาความขัดแย้ง เพื่อให้โครงการดังกล่าวบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้