(มีคลิป) ผบช.ภาค 5 เร่งแก้ปัญหาจราจรทั่วเชียงใหม่ ลดพื้นที่ตั้งด่าน ใช้กล้องจับความเร็ว รับช่วงฤดูท่องเที่ยว

18​ ตุลาคม​ 2562​ : พล.ต.ท.​ประจวบ​ วงศ์​สุข​ ผู้​บัญชาการ​ตำรวจภูธรภาค​ 5​ เป็น​ประธาน​ในการประชุม​และมอบนโยบาย​ให้ตำรวจ ในสังกัดตำรวจภูธร​จังหวัด​เชียงใหม่​ เพื่อแก้ไขปัญ​หาการจราจรที่ประสบปัญหา​ติดขัดในเวลาเร่งด่วน​ รวมถึงขณะนี้ใกล้เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางมาจำนวนมาก อาจส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดได้

พล.ต.ท.​ประจวบ​ กล่าวว่า​ จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว การค้า การลงทุนทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ ปัจจุบันก็มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น สิ่งที่พบคือปัญหาด้านการจราจร โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น ไม่ว่าจะเป็นเขตตัวเมืองเชียงใหม่ หรืออำเภอรอบนอก ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็จะประสบปัญหาเดียวกัน ในวันนี้ จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำกับดูแลด้านการจราจรทั้งหมดในเขตพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ มาประชุมเพื่อรับมอบนโยบาย รวมถึงการหาทางแก้ไขปัญหาด้านการจราจรให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ให้เกิดความปลอดภัยในด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วย

สำหรับพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่าจุดที่เป็นปัญหาหลักจะมีทั้งหมด 9 เส้นทาง โดยเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่จะออกจากตัวเมืองไปยังอำเภอต่างๆ อาทิ อำเภอสันทราย สันกำแพง หางดง แม่ริม และสารภี ซึ่งการจราจรในพื้นที่อำเภอเมืองเช้าและเย็น มีปริมาณหนาแน่นมาก ต้องมีการบริหารจัดการ กลุ่มงานที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข รวมถึงจังหวัดเชียงใหม่กำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ตำรวจเองก็ต้องบริหารจัดการรถที่จะเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะมีปริมาณมากกว่าช่วงที่ไม่ใช่เทศกาล อาจต้องบูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สิ่งสำคัญที่สุดต้องคำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง เข้มงวด และให้เกิดการจราจรที่คล่องตัวมากที่สุด โดยให้แต่ละแห่งไปตรวจสอบเรื่องของป้ายสัญญาณจราจร สัญญาณไฟที่ซับซ้อนในบางจุด ลดพื้นที่การตั้งด่านซ้ำซ้อน เจ้าหน้าที่ต้องออกปฏิบัติหน้าที่ทุกนายและใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องของเมาแล้วขับ ขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วไม่สวมหมวกนิรภัย ขับขี่รถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งถือว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด รองลงมาก็เป็นเรื่องของอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ความมั่นคงแข็งแรง ไม่มีการต่อเติมอุปกรณ์ที่เป็นอันตรายที่จะส่งผลในด้านการขับขี่และเป็นอันตรายต่อผู้ร่วมเส้นทาง การจอดในที่ห้ามจอดด้วย ก็อยากขอความร่วมมือประชาชน ขอให้ขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรที่กฎหมายได้กำหนดไว้