วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

(คลิป) ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ลุยตรวจห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ เตรียมเปิด 17 พ.ค.นี้

Social Share

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ลุยตรวจห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ เตรียมเปิด 17 พ.ค.นี้ กำชับให้เพิ่มความปลอดภัยตามมาตรฐาน หากร้านไหนไม่ปฏิบัติตามอาจถูกสั่งปิดได้ ด้าน “เซ็นทรัลพัฒนา” ประกาศมาตรการเชิงรุก “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” จับมือร้านค้าสร้างต้นแบบการใช้ชีวิตแบบ New Normal

15 พ.ค. 63 : นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจเยี่ยม และตรวจสอบห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ที่จะทำการเปิดตามมาตรการผ่อนปรนรอบที่ 2 โดยมีคุณอรชร จันทร์วิวัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานปฎิบัติการสาขาเขตภาคเหนือ นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับและนำพาชมยังจุดต่างๆ ภายในห้าง

โดยทางคณะที่เข้ามาจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกาย และเดินตรวจร้านค้าที่ตั้งอยู่ภายใน ก็พบว่า มีมาตรการคัดกรองคนเข้าทุกแห่ง และมีการติดป้ายแสดงถึงยอดจำนวนที่ให้เข้าจำกัดว่าให้เข้าได้กี่คน โดยในวันนี้เป็นเพียงการทดลองก่อนจะเปิดจริงในวันที่ 17 พ.ค. 63 ซึ่งทางห้างได้เปิดชั้น G ที่เป็นโซนจำหน่ายอาหาร ของฝากของที่ระลึก, ชั้น 1 ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ร้านกาแฟ และของใช้ต่างๆ ส่วนชั้น 3 เป็นโซนไอที และธนาคาร ส่วนชั้นอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างการรอมาตรการผ่อนปรนที่ชัดเจนตามคำสั่งของ ศบค. ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และคณะได้ไปตรวจสอบตู้ฆ่าเชื้อด้วย UVC ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ซึ่งผู้ที่ซื้อสินค้าภายในห้าง สามารถนำสินค้ามาใส่ภายในตู้แห่งนี้ ประมาณ 30 วินาที ก็สามารถฆ่าเชื้อและป้องกันไวรัสได้แล้ว

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในการมาตรวจเยี่ยมห้างสรรพสินค้าในวันนี้ ก็ดำเนินการตรวจสอบเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และดำเนินการตามมาตรการผ่อนปรนรอบที่ 2 ตามคำสั่งของ ศบค. ที่กำหนดออกมา โดยมาตรวจร่วมกับทางสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องบูรณาการร่วมกันในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด โดยผลจากการมาตรวจก็เป็นที่น่าพอใจที่ทางห้างมีการจัดการป้องกันตั้งแต่ก่อนเข้ามาจนถึงหลังเข้ามาเรียบร้อยแล้ว และร้านค้าต่างๆ ที่ตั้งอยู่ภายในห้าง รวมถึงร้านเสริมความงาม ก็มีมาตรการเข้มงวด คัดกรองคนเข้าไปใช้บริการอีกครั้ง มีเจลแอลกอฮอล์ให้ล้างมือ มีการจำกัดจำนวนคนเข้าไปในแต่ละครั้งว่าไม่เกินกี่คน ต้องเว้นระยะห่างเท่าไหร่ ขณะเดียวกันก็ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเรื่องของการป้องกันและการเว้นระยะห่างตามมาตรฐานด้วย แม้กระทั่งการขึ้นบันไดเลื่อน จะต้องมีการเว้นระห่างด้วยเช่นกัน และให้พนักงานทำความสะอาดให้บ่อยครั้งมากขึ้น และร้านค้าแต่ละแห่งต้องทำความสะอาดบริเวณที่ลูกค้ามาใช้บริการเสร็จสิ้นโดยทันที

นายเจริญฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการมีวินัยที่ทุกคนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ และการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดไว้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หากทุกคนทำได้ก็เชื่อว่าการแพร่ระบาดของเชื้อจะลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าจังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมในทุกด้าน หากการผ่อนปรนให้สถานบริการแห่งไหนเปิด ก็เชื่อว่าพร้อมที่จะเปิดได้ทันที เพราะจากการประชุมที่ผ่านมาทุกคนก็เข้าใจและพร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่ทั้งนี้หากสถานบริการใดไม่ว่าจะอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ใดก็ตาม หากไม่ปฏิบัติตามก็จะต้องถูกสั่งปิดเป็นการชั่วคราว แต่ไม่ได้สั่งปิดทั้งห้าง แต่จะปิดเฉพาะบางส่วนที่ไม่ปฏิบัติตาม

ด้าน นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การตรวจสอบห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ในวันนี้ ก็เห็นความพร้อมในหลายๆ ด้าน แต่ทุกคนก็ป้องกันตนเอง การ์ดอย่าตก ส่วนเรื่องที่จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วย 1 รายนั้น ตั้งแต่ที่เดินทางออกมาจาก จ.ภูเก็ต ได้แวะพักที่เดียวคือนอนพักที่ จ.นครปฐม หลังจากนั้นก็มีแวะเข้าห้องน้ำบ้าง แต่จุดที่ลงไปซื้ออาหารจะเป็นภรรยากับลูกลงไปซื้อ จึงไม่ทราบว่าไปติดมาจากช่วงไหน หรือเกิดขึ้นในพื้นที่ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นและยังอยู่ในช่วงที่ควบคุมได้ ขณะเดียวกันก็อยากให้ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และสถานบริการต่างๆ ที่เคยคิดว่า ลูกค้าคือพระเจ้าต้องยอมลูกค้าทุกอย่าง ในตอนนี้ก็อยากให้คิดในมุมกลับกัน เพราะลูกค้าต้องปฏิบัติตามร้านค้าด้านมาตรฐานความปลอดดภัย หากลูกค้าไม่ปฏิบัติก็ไม่ควรให้เข้ามาในร้าน เพราะจะเกิดความเสี่ยงต่อพนักงานภายในร้าน และลูกค้าคนอื่น รวมถึงอาจเสี่ยงต่อการถูกสั่งปิดสถานบริการหรือร้านค้าได้

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “โดยในระหว่างที่สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศยังไม่แน่นอนนั้น บริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้ริเริ่มการจัดทำแผนแม่บท ‘เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ’ เพื่อยกระดับมาตรการความสะอาดและความปลอดภัยในเชิงรุกไว้ล่วงหน้า ที่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริงกับศูนย์การค้า ร้านค้า และพนักงานทุกคน เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการลดการแพร่ระบาด และทำให้ทุกคนในศูนย์การค้าของเราปลอดภัยขั้นสูงสุด อีกทั้งเพื่อตอบรับ ‘New Normal’ หรือพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งบริษัทฯ ไม่สงวนสิทธิ์ในแผนงานนี้ เพื่อส่งเสริมให้เป็นแผนแม่บทในการดำเนินกิจการค้าปลีกของประเทศ และกำหนดบรรทัดฐานใหม่ให้กับสังคม นับจากนี้ไป ซึ่งครอบคลุมในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยใน 5 แกนหลัก กว่า 75 มาตรการ ได้แก่ (1) การคัดกรองอย่างเข้มงวด, (2) มาตรฐาน Social Distancing ทุกจุด, (3) การติดตามเพื่อความปลอดภัย, (4) การใส่ใจในความสะอาดทุกจุดสัมผัส และ (5) แนวทางลดการสัมผัส (Touchless) โดยจะขอความร่วมมือจากพันธมิตรร้านค้าทุกร้านค้าในศูนย์การค้าให้ร่วมกันดำเนินตามแผนแม่บท ‘เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ’ ร่วมกัน เพื่อฝ่าฝันวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทดลองริเริ่มการใช้มาตรการนี้และปฏิบัติได้จริงกับการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราชมาแล้ว และถือเป็นตัวอย่างความร่วมมืออันดีโดยได้รับการชื่นชมจากทางจังหวัดที่มาตรวจเยี่ยม และลูกค้าว่ารู้สึกมั่นใจมากขึ้น”

นางสาววัลยา กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นใน “พลังประเทศไทย” ที่เกิดจากความร่วมมือกันของทั้ง 3 ฝ่าย (1) ภาคประชาชนมีวินัยช่วยกันป้องกัน (2) ภาครัฐดูแลสุขภาพคนไทยอย่างเต็มที่ และ (3) ภาคเอกชนมีแผนมาตรการความสะอาดและความปลอดภัยที่เคร่งครัดรัดกุมปฏิบัติได้จริงตลอดระยะเวลา โดยทางเซ็นทรัลพัฒนาได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐเต็มที่และต่อเนื่องในการปฎิบัติตามมาตรการต่างๆ รณรงค์การทำ Social Distancing ที่ชัดเจนและเคร่งครัดจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก รวมทั้งสนับสนุนให้ประชาชน ‘อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ’ แต่หากต้องมาใช้บริการที่จำเป็น เราได้ดำเนินมาตรการความสะอาดและความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจมาโดยตลอด โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นการดำเนินการของภาครัฐด้านสาธารณสุขของไทยที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก และในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ การเปิดให้บริการศูนย์การค้าของซีพีเอ็นจะขึ้นอยู่กับคำสั่งของภาครัฐเท่านั้น”

สำหรับไฮไลต์ของแผนแม่บท ‘เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ’ ประกอบไปด้วย 5 แกนหลัก ได้แก่

  1. การคัดกรองอย่างเข้มงวด (Extra Screening) วัดอุณหภูมิทุกคนก่อนเข้าศูนย์ฯ และทุกร้านค้า, สวมหน้ากากตลอดเวลา, พนักงานที่บริการใกล้ชิดลูกค้าต้องสวม Face shield และสวมถุงมือ และมีมาตรการเข้มงวดพิเศษสำหรับ Delivery man
  2. มาตรฐาน Social Distancing ทุกจุด เช่น จำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์การค้า ไม่เกิน 1 คน ต่อ 5 ตร.ม. สำหรับร้านค้าและพื้นที่ส่วนกลาง ลิฟท์-บันไดเลื่อน-ห้องน้ำ ต้องรักษาระยะห่าง 1-2 ม. ทุกจุด, จัดคิวขณะรอ และมีพื้นที่นั่งคอย สำหรับร้านค้า และ Delivery man, มีฉากกั้นแบ่งส่วนครบครันด้วย 5 Shields: Face Shield / Food Shield / Table Shield / Counter Shield / Cashier Shield พร้อมสร้างการตระหนักรู้วิธีปฏิบัติให้ทุกคนทราบอย่างต่อเนื่อง
  3. การติดตามเพื่อความปลอดภัย (Safety Tracking) มีการ Tracking ข้อมูลสุขภาพ และการเดินทางของพนักงานในศูนย์และร้านค้าย้อนหลัง 14 วัน และมีแบบฟอร์มให้กรอกก่อนเปิดศูนย์ฯ และทุกวันก่อนเริ่มงาน และสำหรับอาหาร Take away ทุกกล่อง ต้องระบุข้อมูลชื่อร้าน สาขา และเวลา พร้อมชื่อและอุณหภูมิของผู้ประกอบอาหารติดบนกล่องอาหาร
  4. การใส่ใจในความสะอาดทุกจุดสัมผัส (Deep Cleaning) เช็ดทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสทุก 30 นาที ทั้งศูนย์การค้าและทุกร้านค้า และฆ่าเชื้อหลังปิดศูนย์ฯ พร้อมทำ Big Cleaning ทุกสัปดาห์, บริการฆ่าเชื้อที่ถุงสินค้าก่อนกลับบ้าน, ทำความสะอาดฆ่าเชื้อบัตรศูนย์อาหาร / บัตรจอดรถทุกใบ และมีมาตรการพิเศษสำหรับห้องบริการต่างๆ เช่น ห้องแม่และเด็ก ห้องละหมาด ห้องลอง ห้องเรียน และทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนและหลังใช้บริการ
  5. ลดการสัมผัส (Touchless Experience) ส่งเสริมการใช้ Cashless และ E-payment, บริการถุงใส่เงินทอนที่จุดแคชเชียร์ทุกร้านค้า,จัดพนักงานเปิดปิดประตูศูนย์การค้าและร้านค้า และกดลิฟท์ให้ลูกค้าเพื่อลดการสัมผัส (Buttonless)