เอไอเอส หนุน รพ.สนามเชียงใหม่ เสริมความแรงสัญญาณด้วย 5G เพิ่มประสิทธิการทำงานให้เจ้าหน้าที่

“ เอไอเอส สนับสนุนระบบสื่อสาร ติดตั้งอุปกรณ์ดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลสนาม จ.เชียงใหม่”

13 เมษายน 2564 : นายอาทยา หยู่เย็น หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค – ภาคเหนือ เอไอเอส กล่าวว่า “ จากสถานการณ์การระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นในพื้นที่ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา เพื่อเป็นการสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ทางเอไอเอส จึงได้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม (5G Fixed Wireless Access (AIS 5G FWA) เพื่อเสริมขีดความสามารถในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการข้อมูลของผู้ป่วย และเพื่อสามารถแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ได้อย่างเต็มที่โดยมี นางพัชรากาญจน์ คงทวีพันธ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนรับมอบ

นางพัชรากาญจน์ คงทวีพันธ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้มีบุคลากรจากหลายภาคส่วนบูรณาการร่วมกัน โดยมีแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หน่วยกู้ชีพ ในแต่ละวันจะมีการติดต่อข้อมูลข่าวสาร การส่งและรับข้อมูลที่้ต้องพึ่งพาสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แรง-เร็ว โดยเอไอเอส มีการติดตั้งอุปกรณ์และมีเสาสัญญาณบริเวณศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ที่เป็นโรงพยาบาลสนาม ทำให้เกิดการใช้งานเครือข่ายสัญญาณที่มากขึ้น ในวันนี้ทางเอไอเอสได้เข้ามาสนับสนุนและติดตั้งอุปกรณ์ขยายเครือข่ายสัญญาณให้ ก็เป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก เพราะปัจจุบันต้องอาศัยข้อมูลที่รวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร จึงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย

นายอาทยา หยู่เย็น หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค – ภาคเหนือ เอไอเอส กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ เอไอเอส ยังได้เตรียมพร้อมเครือข่ายในพื้นที่ใหม่ที่กำลังเตรียมรับผู้ป่วย อาทิ โรงพยาบาลสนาม ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , โรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.33 จ.เชียงใหม่ , ศูนย์การแพทย์แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมดูแลเครือข่ายในจุดสำคัญด้านสาธารณสุขในพื้นที่อื่นๆ อาทิ โรงพยาบาลในจังหวัดกลุ่มเสี่ยง ที่จะต้องใช้ระบบ IT และ Online ในการบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 รวมถึงระบบหลังบ้านที่จะรองรับการใช้งาน Application ที่เกี่ยวกับสาธารณสุข เช่น อสม.ออนไลน์ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“ในฐานะภาคเอกชน เราขอเป็นตัวแทนขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานสาธารณสุข อาสาสมัคร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทุ่มเทและเสียสละ ในการปฏิบัติภารกิจเป็นอย่างยิ่ง เอไอเอส ขอส่งความห่วงใย และเป็นกำลังใจให้แก่ทุกท่าน และ พร้อมยืนยันจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำระบบสื่อสารเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นจากสภาวะการระบาดของโควิด-19 อย่างสุดความสามารถ”นายอาทยา กล่าวในตอนท้าย