วันพฤหัสบดี, 18 เมษายน 2567

(คลิป) ตำรวจเชียงใหม่วิสามัญ หนุ่มลำพูนห้อยพระปิดตามหาอุด ลอบค้ายา ริมถนนเลียบรถไฟเชียงใหม่

Social Share

เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ที่บริเวณริมถนนทางเลียบรถไฟ เส้นทางเชียงใหม่ – ลำพูน ทางเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด และได้ให้แก๊งค้ายานำยาเสพติดมาส่ง เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ ได้นำยาเสพติดยาบ้า ใส่มาในรถยนต์กระบะ และขับมาส่งตามจุดนัด แต่คาดว่าน่าจะถูกว่าจ้างให้นำมาส่งแทน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้เปิดฉากยิงต่อสู้ ในที่สุดถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญดับคารถ ขณะที่จะหลบหนี ยึดยาบ้าของกลางได้ 32,000 เม็ด ส่วนตัวการที่เจ้าหน้าที่ต้องการไม่ได้มาด้วย คาดว่าคงหลบหนีไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลจับกุมเครือข่ายที่เหลือต่อไป

12 ก.พ. 63 พ.ต.อ.นฤบาล จิตทยานันท์ ผกก.สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ว่าได้สกัดจับผู้ต้องหาค้ายาเสพติด และเกิดการยิงต่อสู้ ซึ่งได้วิสามัญผู้ต้องหา 1 ราย เหตุเกิดบนถนนเลียบทางรถไฟ สายเชียงใหม่ – ลำพูน ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภายหลังได้รับแจ้งจึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ และแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง พร้อมชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ต่อมา พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย โดยในจุดเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1ฒฌ 5983 กรุงเทพมหานคร ของผู้ต้องหาที่ถูกวิสามัญ จอดอยู่ริมถนน ลักษณะท้ายรถได้ลงไปอยู่ริมถนน หันหน้าออกทางถนน และยางรถด้านหน้าขวาถูกเจ้าหน้าที่ยิงจนยางแตก กระจกด้านซ้ายฝั่งคนนั่งด้านข้าง มีรอยกระสุนจากการยิงต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ จำนวน 5 รอย ส่วนป้ายทะเบียนถูกสีสเปย์สีขาวพ่นทับ ทำให้มองเห็นป้ายทะเบียนไม่ชัดเจน และภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบยาเสพติดยาบ้า จำนวน 16 มัด รวม 32,000 เม็ด และอาวุธปืน 1 กระบอก ที่ผู้ตายใช้ยิงต่อสู้เพื่อเปิดเส้นทางหนี และจากการตรวจสอบก็พบว่า ถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ยิงเข้าที่แขวนขวา และที่ลำตัว มีรอยสักทั่วทั้งตัว และห้อยพระปิดตามหาอุดไว้ 1 องค์ ตรวจสอบเอกสารในตัวผู้ตายทราบชื่อภายหลังคือ นายฐณธรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี บ้านอยู่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน

จากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการจับกุมวัยรุ่นชายไทย ได้จำนวน 2 คน พร้อมของกลางยาเสพติดยาบ้า จำนวน 32,000 เม็ด จับกุมได้บริเวณถนนวงแหวนรอบที่ 2 ใกล้กับร้านอาหารปลาชานเมือง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภายหลังถูกจับกุมได้ ทั้งสองคนก็ให้การรับสารภาพและซัดทอดว่า ได้สั่งซื้อยาเสพติดมาจากคนรู้จัก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนให้ทั้งสองคนติดต่อและนัดส่งมอบยาเสพติดกันบริเวณริมสะพานข้ามคลองแม่ข่า เลียบทางรถไฟ ใกล้กับจุดที่วิสามัญ เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผู้ต้องหาได้นำยาเสพติดมาส่ง แต่ได้ไหวตัวทัน พยายามขับขี่รถหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีส้ม เข้าสกัดด้านหน้า จึงเกิดการชนกัน หลังจากที่รู้ว่าหนีไม่ได้ ก็ได้ถอยรถเพื่อจะหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ เข้าบล็อคด้านข้างอีก

แต่รถผู้ต้องหายังคงไม่หยุดได้ถอยมา เป็นช่วงจังหวะที่รถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตามเพื่อจะจับกุม เข้ามาอยู่ด้านหลังพอดี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบหยุดรถและกระโดดหนี ก่อนที่รถจักรยานยนต์จะถูกรถของผู้ต้องหาถอยชนและลากมากับพื้นถนนกว่า 20 เมตร ระหว่างนั้น ตัวผู้ต้องหาก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงมาทางเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี กระทั่งมาถึงจุดที่ถูกวิสามัญนั้น ตัวผู้ต้องหาได้ถอยรถลงข้างทาง เพื่อจะวนรถกลับ ปรากฏว่ารถได้ติดหลุม ทำให้ไม่สามารถขึ้นจากข้างทางได้ และได้ยิงมาทางเจ้าหน้าที่เป็นระยะ จึงเกิดการยิงปะทะกัน เมื่อเสียงปืนสงบลง ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ ก็พบว่าผู้ต้องหาถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่เสียชีวิตแล้ว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง เจ้าของพื้นที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว


สำหรับตัวผู้ต้องหาที่ถูกวิสามัญครั้งนี้ ไม่ใช่ตัวผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัว แต่คาดว่าน่าจะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรืออาจถูกจ้างวานให้นำยาเสพติดมาส่ง ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็เตรียมขยายผล และติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดของแก๊งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับเหตุการณ์วิสามัญในครั้งนี้ กลุ่มประชาชนที่กำลังใช้เส้นทางดังกล่าว ต่างพากันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมีการไล่ล่ากันคล้ายในหนัง ก่อนเปิดฉากยิงกันเสียงปืนดังสนั่น ก่อนจะจบด้วยการที่ตัวผู้ต้องหาถูกวิสามัญดังกล่าว