วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

ผบช.ภาค 5 สั่งการต่อไปสถานีตำรวจ 159 แห่งพื้นที่ 8 จว.ภาคเหนือ ห้ามสูบบุหรี่

Social Share

ผบช.ภาค 5 สั่งการต่อไปสถานีตำรวจ 159 แห่งพื้นที่ 8 จว.ภาคเหนือ ห้ามสูบบุหรี่ ตั้งเป้าให้ตำรวจเลิกสูบให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 จากทั้งสิ้น 1,389 นาย พร้อมติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ให้เห็นอย่างชัดเจนทุกโรงพัก

7 ม.ค. 2563 : พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.สมสง่า ชรินทร์ รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กฤษณะพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.อดุลย์ ดรุณเพท รอง ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย นายแพทย์บุญเติม ตันสุรัตน์ กรรมการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และที่ปรึกษา สปสช. เขต ๑ เชียงใหม่ , พล.ต.ต.หญิงพิมพรรณ ทรัพย์ขำ ผบก.ดร.รพ., ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมพิธีมอบป้ายสถานีตำรวจเป็นเขตปลอดบุหรี่ ให้กับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดจำนวน 8 แห่ง และหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน ๑5๙ แห่ง ซึ่งเป็นการดำเนินการตาม “โครงการตำรวจภูธรภาค 5 ขับเคลื่อนนโยบายสถานีตำรวจปลอดบุหรี่”

ถือเป็นความร่วมมือร่วมกันระหว่างตำรวจภูธรภาค 5, โรงพยาบาลดารารัศมี , สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้สถานีตำรวจภูธรในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 เป็นเขตปลอดบุหรี่ และส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการตำรวจเลิกสูบบุหรี่ ตลอดจนการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ โดยมีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นโดยชัดเจนว่าเป็นเขตปลอดบุหรี่และปราศจากอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการสูบบุหรี่

จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีจำนวนข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติบนสถานีตำรวจที่สูบบุหรี่ จำนวน 1,389 นาย จากจำนวนข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บนสถานีตำรวจทั้งสิ้น 11,686 นาย สำหรับเป้าหมายของโครงการดังกล่าวคือ ให้หัวหน้าสถานีตำรวจสนับสนุนส่งเสริมให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดที่สูบบุหรี่เลิกสูบบุหรี่ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 และจัดสถานที่บริเวณสถานีตำรวจให้เป็นสถานที่ที่คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ โดยมีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นชัดเจนว่าเป็นเขตปลอดบุหรี่และปราศจากอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการสูบบุหรี่

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 ได้กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 5 ได้อนุมัติให้ดำเนินการตามโครงการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2562 เป็นต้นมา โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมีติดตามผลการดำเนินการทุกระยะ ซึ่งจะมีการมอบโล่และประกาศเกียรติคุณให้กับหัวหน้าสถานีตำรวจที่สามารถส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดของตนที่สูบบุหรี่เลิกสูบบุหรี่ได้ โดยแบ่ง 3 ระดับ ได้แก่

  1. ระดับดีเลิศ จำนวนข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บนสถานีตำรวจที่สูบบุหรี่มีจำนวนลดลงร้อยละ 50 ขึ้นไป
  2. ระดับดีมาก จำนวนข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บนสถานีตำรวจที่สูบบุหรี่มีจำนวนลดลงร้อยละ 40๐ ถึงร้อยละ 49
  3. ระดับดี จำนวนข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บนสถานีตำรวจที่สูบบุหรี่มีจำนวนลดลงร้อยละ 30 ถึงร้อยละ 39

นอกจากนั้น ยังมุ่งหวังให้สถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 เป็นสถานีตำรวจต้นแบบ “สถานีตำรวจปลอดบุหรี่” ให้กับสถานีตำรวจในสังกัดสำนักตำรวจแห่งชาติต่อไปด้วย

ในการนี้ นพ.บุญเติม ตันสุรัตน์ กรรมการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และที่ปรึกษา สปสช. เขต 1 เชียงใหม่ กล่าวว่าสืบเนื่องจากพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 กำหนดให้สถานที่สาธารณะ สถานที่ทำงาน และยานพาหนะ ให้ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของสถานที่และยานพาหนะ เป็นเขตปลอดบุหรี่ ด้วยสถานีตำรวจเป็นสถานที่ราชการและเป็นสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่

อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย จึงต้องถือปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดโดยเคร่งครัด ซึ่งสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 มีจำนวน 159 แห่งและเปิดให้บริการประชาชนตลอดเวลา 24 ชั่วโมง จึงเป็นสถานที่ราชการ ที่ควรเป็นสถานที่ต้นแบบในการส่งเสริมสุขภาพของข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บนสถานีตำรวจและประชาชนผู้มาติดต่อขอรับบริการ

 

ในนามมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ต้องขอขอบคุณและชื่นชมท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นอย่างมากที่ท่านสนับสนุนการดำเนินงานของโครงการตำรวจภูธรภาค 5 ขับเคลื่อนนโยบายสถานีตำรวจปลอดบุหรี่ ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เพื่อสนับสนุนให้สถานีตำรวจภูธรในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 เป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้ง 159 แห่ง อีกทั้งเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ข้าราชการตำรวจเลิกสูบบุหรี่ เป็นต้นแบบที่ดีของประชาชนอีกด้วย และถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะประสานความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อดำเนินโครงการนี้ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

Cr. ตำรวจภูธรภาค 5