8 ธ.ค. 62 : ที่ลานห้องอาหารกาสะลอง โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ นายศรัณยู มีทองคำ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานเสวนา “Fashion Talk” โดยมี นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประธานการจัดงาน นางนิศาบุษป์ วีรบุตร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก การจัดงานครั้งนี้เพื่้อผลักดันอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เกิดการปรับตัวสู้เศรษฐกิจโลก หลังจากที่เศรษฐกิจและการค้าของประเทศและต่างประเทศชะลอตัว ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการส่งออกของไทย
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยประสบกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่มาจากปัจจัยภายนอกอย่างสงครามการค้า สภาวะที่ธุรกิจถูกทำให้หยุดชะงักในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาอย่างรวดเร็ว หรือ Technology disruption และปัจจัยภายในประเทศโดยเฉพาะเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และไม่ใช่แต่ประเทศไทยเท่านั้น หลายประเทศทั่วโลกเองก็มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าที่ชะลอตัวลงเช่นกัน ส่งผลให้การแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับภาคการส่งออกของไทย ก็หนีไม่พ้นที่ต้องเผชิญกับความท้าทายดังกล่าว
กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ ซึ่งรวมถึงสินค้าแฟชั่น ถือเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการส่งออกถึงกว่า 12,300 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด และที่สำคัญที่สุด ผู้ประกอบการสินค้ากลุ่มนี้กว่าร้อยละ 90 เป็นผู้ประกอบการ SME ซึ่งถือเป็นผู้ที่มีความสำคัญในอันที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ดี การดำเนินธุรกิจภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน ผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่จะมีข้อจำกัดทางด้านเงินลงทุนและทรัพยากรต่างๆ ทำให้เสียเปรียบผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่มีกำลังอำนาจทางการตลาด และงบประมาณที่มากกว่า ยากที่ผู้ประกอบการขนาดเล็กจะเป็นคู่แข่ง “หากไม่แน่จริง” ดังนั้น ท่านต้องปรับตัวสู่การตลาดเชิงรุก ทำอย่างไรให้สามารถขายได้ แข่งขันได้ นั่นก็คือการผลิตตามความต้องการของตลาด สร้างสรรค์สินค้าที่มีเอกลักษณ์ ที่สำคัญ อย่าหยุดที่จะพัฒนาทั้งสินค้าและตัวเอง บางเรื่องที่เราไม่เก่งก็ไปจับคู่กับคนที่เค้าเก่งร่วมกันผลิตเป็นสินค้าที่สวยงามและมีคุณภาพได้ ต้องศึกษาข้อมูลสินค้า ตลาด แนวโน้มความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภค ดีไซน์เทรนด์ หรือแม้แต่การหาช่องทางตลาดใหม่ๆ อยู่เสมอ
เพื่อให้สามารถปรับตัวสู่การตลาดเชิงรุก ก้าวทันกระแส “โลกการค้า” ที่เปลี่ยนแปลง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ DITP ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าและบริการของไทยสู่ตลาดต่างประเทศ ตระหนักและเห็นความสำคัญของการพัฒนาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่น สิ่งทอ กระเป๋าและเครื่องประดับ ให้มีศักยภาพการแข่งขันที่สูงขึ้น ได้จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและโครงการพัฒนาศักยภาพที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่ผู้ประกอบการรายเล็กที่ยังไม่เคยส่งออก เริ่มส่งออก ไปจนถึงผู้ส่งออกที่ต้องการขยายตลาดใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรฝึกอบรมสัมมนา ข้อมูลด้านสินค้าและตลาด ซึ่งสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ www.ditp.go.th หรือสอบถาม สายด่วนผู้ส่งออก 1169
และสำหรับท่านผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านที่มองหากิจกรรมส่งเสริมตลาดและพัฒนาศักยภาพที่เน้นเฉพาะกลุ่มแฟชั่น เรามีโครงการและหลักสูตรต่างๆ ได้แก่
- โครงการ Qurated Fashion Incubation หรือโครงการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการแฟชั่น สำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพ เรามีหลักสูตรสัมมนาและ workshop แบบเข้มข้น ให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว จากทีมดีไซเนอร์ชื่อดัง และต่อยอดด้วยการนำไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Style ที่กรุงเทพฯ ค่ะ โครงการนี้เราจัดมาแล้ว 6 ครั้ง อย่างครั้งล่าสุด ผู้ประกอบการหลายรายสามารถนำสินค้าเข้าจำหน่ายในห้างดังๆของไทย รวมถึงได้ออร์เดอร์จากต่างประเทศด้วย
- โครงการพัฒนา Pattern เป็นการสอนสร้างต้นแบบตัดเย็บแบบสากล
- สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ ที่ต้องการทดลองตลาด เรามีโครงการ New faces โดยเราจะมีกิจกรรมสัมมนาเตรียมความพร้อม หรือและนำไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้า
- คณะผู้แทนการค้าสินค้าแฟชั่นไปเจรจาการค้าที่ญี่ปุ่น (โตเกียว โอซาก้า)
- คณะผู้แทนการค้ากลุ่มสินค้าตลาดเฉพาะ หรือ Niche Market อย่างสินค้าแม่และเด็ก สินค้าสัตว์เลี้ยง สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ ไปเจรจาการค้า อาทิ CLMV จีน ฯลฯ ถือเป็นตลาดที่มีขนาดเล็ก แต่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง
- โครงการพัฒนาสินค้าสิ่งทอที่มีคุณสมบัติพิเศษ นำผู้ผลิตสิ่งทอคุณสมบัติพิเศษ มาจับคู่ธุรกิจกับ กลุ่มนักออกแบบ และผู้ผลิตสินค้ากลุ่มแฟชั่น เพื่อพัฒนาสินค้าเสื้อผ้าฟังค์ชั่นให้ตอบสนองการใช้งานต่างๆ เช่น กลุ่มโรงพยาบาล ยูนิฟอร์ม นักกีฬา เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมสัมมนา Fashion Talk ในวันนี้ จะเป็นการเสวนาเกี่ยวกับสินค้าแฟชั่น ซึ่งการพัฒนาด้านการออกแบบ ถือเป็นหนึ่งในหัวใจหลักในการสร้างเอกลักษณ์ และความแตกต่างอันเป็นจุดขายที่แตกต่าง อุตสาหกรรมแฟชั่น สิ่งทอ กระเป๋าและเครื่องประดับ เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และประเทศไทยก็ไม่ใช่แหล่งผลิตจำนวนมากและราคาถูกอีกต่อไป
ในยุคที่โลกถูกทำให้ธุรกิจหยุดชะงักด้วยความก้าวหน้าทางเทคโลโลยี และนวัตกรรม ทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นเกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ และผู้ประกอบการที่จะอยู่รอดได้ จะต้องมีจุดเด่น ที่เหมาะกับการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น การใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อแฟชั่น การบริโภคแฟชั่นผ่านประสบการณ์ใหม่ หรือแฟชั่นที่คำนึงถึงความยั่งยืน ดิฉันเห็นว่าผู้ประกอบการภาคเหนือ มีข้อได้เปรียบทางด้านวัตถุดิบธรรมชาติ และทางด้านวัฒนธรรมที่ถือได้ว่าเป็นต้นทุนที่เหมาะกับการนำมาเป็นจุดแข็งในการแข่งขันในระดับสากล
เรื่องมาใหม่
- แม่ฮ่องสอน เสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การจัดการไฟป่าและหมอกควัน
- แม่ฮ่องสอน Kick off โครงการยกระดับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA)
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกอบพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” “ผ้าลายชบาปัตตานี” เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นถิ่น
- อธิบดีกรมอุทยานฯ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าลุ่มน้ำปาย และคดีชิงตัวผู้ต้องหา ล่าสุดเข้ามอบตัวแล้ว 5 คน
- ศิษย์เก่าโรงเรียนรังษีวิทยา มอบเครื่องกรองอากาศ 18 เครื่อง เพื่อดูแลเด็กอนุบาล ปลอดภัยจากค่าฝุ่น PM 2.5