22 มกราคม 2562 : นายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า แม่วางเป็นแหล่งปลูก “หอมหัวใหญ่” ที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่โดยมีพื้นที่การผลิตทั้งสิ้น 3,500 ไร่ เนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศตลอดจนสภาพอากาศ เหมาะกับการปลูก ให้มีคุณภาพ โดยเกษตรกรจะเริ่มทำการเพาะปลูกต้นเดือนธันวาคมและจะ เก็บผลผลิตช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งตั้งแต่เริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยวใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน
โดยที่ผ่านมาประสบปัญหาผลผลิตขาดคุณภาพเนื่องจากการทำลายของหนอนกระทู้หอม Spodoptera exiqua (Hubbner) กรมส่งเสริมการเกษตร โดยความร่วมมือของกองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย ร่วมกับ สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ดำเนินงานโครงการการจัดทำแปลงเรียนรู้ทดลองการใช้เชื้อไวรัส NPV (Nuclear Polyhedrosis Virus) เพื่อควบคุมหนอนกระทู้หอม จังหวัดเชียงใหม่ได้คัดเลือกอำเภอแม่วาง เป็นพื้นที่นำร่อง ร่วมกับอีกจำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี,ลำพูน,นครราชสีมา ,นครปฐม ,กาญจนบุรี และสงขลา ซึ่งล้วนเป็นแหล่งปลูกหอมแปลงใหญ่ของประเทศ
เชื้อไวรัส Nucleopolyhedro virus (NPV) จัดเป็นไวรัสที่เกิดเป็นโรคกับแมลงชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำให้แมลงศัตรูพืชเกิดเป็นโรคและตายในเวลาต่อมา เชื้อที่ได้นำมาทดลองได้แก่ NPV ของหนอนกระทู้หอม (Spodoptera exigua (SeNPV)) หนอนกระทู้ผัก (Spodoptera litura (SlNPV)) เกษตรกรอำเภอแม่วางที่เข้าร่วมโครงการมีจำนวน 3 รายๆละ 2 ไร่ แบ่งเป็นแปลงทดลอง จำนวน 1ไร่ และแปลงตามวิธีปกติของเกษตรกร จำนวน 1ไร่ โดยให้เกษตรกรฉีดพ่น เชื้อ NPV ของหนอนกระทู้หอม (Spodoptera exigua (SeNPV) ในแปลงทดลอง เพื่อควบคุมหนอนกระทู้หอม อัตราการฉีดพ่น SeNPV 1 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร เป็นประจำทุก 7 วัน
โดยเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานเกษตรอำเภอแม่วาง ร่วมกันสำรวจจำนวนหนอนทู้หอม หนอนกระทู้ผัก และแมลงศัตรูพืชอื่นๆ ที่เข้าทำลายหอมหัวใหญ่เป็นประจำทุกสัปดาห์ พร้อมบันทึกและรายงานผล ระยะเวลาการทดลอง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ถึงเดือนมีนาคม 2562 ผลการทดลองในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีการพบหนอนกระทู้หอมในแปลงทดลองที่ฉีดพ่นเชื้อไวรัส NPV น้อยกว่าแปลงตามวิธีของเกษตรกร เมื่อสิ้นสุดการทดลอง แปลงเหล่านี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ ในด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้เชื้อไวรัส NPV ในการกำจัดหนอนกระทู้หอม
เมื่อเกษตรกรรู้จักการใช้ NPV แล้ว เกษตรกรไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี สามารถใช้ NPV ทดแทนสารเคมีได้ จะเป็นการช่วยลดอันตรายจากการใช้สารเคมีแก่เกษตรกร และช่วยลดรายจ่ายค่าสารเคมีลงได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นการนำไวรัส NPV มาใช้จะเป็นการช่วยอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและช่วยเพิ่มปริมาณของศัตรูทางธรรมชาติ ตลอดจนเกษตรกรสามารถดำเนินชีวิตภายใต้สุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีมีความปลอดภัยทั้งต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ยั่งยืนสืบไปอีกด้วย
เรื่องมาใหม่
- (คลิป) เริ่มที่พะเยา คนไทยสร้าง คนทั้งโลกเป็นเจ้าของ ทุ่มงบ 5,000 ล้านบาท ไม่ใช้งบจากราชการ สร้าง “อัครมหาวิหาร” สิ่งมหัศจรรย์สูงที่สุดในโลก 217 เมตร
- SUN ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ในรูปแบบ Hybrid Meeting
- สธ.แม่สะเรียงเสริมทักษะเจ้าหน้าที่ชายขอบ ป้องกันควบคุมโรคไข้มาลาเรีย
- realme เปิดตัวสมาร์ทโฟนในราคาหลักพัน แบบคุ้มๆ ทั้ง “realme 12 5G” และ “realme 12X 5G” กับ Lossless 3X Zoom รุ่นแรกในระดับราคาเดียวกัน
- จัดยิ่งใหญ่ ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดงานประเพณีปอยส่างลอง หมู่บ้านชายแดน และเป็นงานปอยส่างลองงานสุดท้ายของปี 2567