วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

(มีคลิป) เปิดใจหนุ่มนักเรียนสารพัดช่างเชียงใหม่ หนุ่มช่างพิการครึ่งท่อนโพลต์โซเชียลวอนหาที่ฝึกงานก่อนจบ

Social Share

23 ก.ย. 62 : ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อมูลของหนุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “Chatree Konwatcharathada” ซึ่งได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อ ต๊อด ตอนนี้ผมเรียนช่างยนต์อยู่ครับแล้วเดือนตุลาคมนี้ ผมต้องไปฝึกงานตามอู่หรือศูนย์บริการซ่อมละครับแต่ผมอาจจะไม่เหมือนช่างทั่วๆไปตรงที่ว่าผมมีเเค่ครึ่งท่อน ไม่ทราบว่าพอจะมีอู่หรือศูนย์บริการซ่อมที่ไหน รับผมฝึกงานบ้างครับ ขอเป็นอู่ซ่อมเตอร์ไซค์ครับ” เมื่อข้อความดังกล่าวปรากฎลงในโลกโซเชียล ก็ได้รับความสนใจและมีคนแชร์ข้อความดังกล่าวไปเป็นจำนวนมาก

จากการติดตามไปหาน้องต๊อด ถึงที่บ้านพัก ซึ่งอาศัยอยู่หอพักไม่มีชื่อบ้านยวม ซอย 7 หมู่ที่ 5 ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ก็ได้เห็นว่า น้องต๊อด เป็นเด็กที่จิตใจเข้มแข็งมาก ส่วนเรื่องการเคลื่อนไหว แม้จะพิการ แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการที่จะพาตัวเองไปยังที่ต่างๆ เลย เรียกว่าเคลื่อนไหวได้เร็วมาก และไม่น่าเชื่อว่าจะขึ้นลงรถวิลแชร์ได้ด้วยตนเอง เหมือนกับกระโดดขึ้นไปนั่ง โดยที่ไม่มีคนช่วยอีกด้วย และทราบว่าน้องต๊อด พร้อมกับเพื่อนเคยเข้าแข่งขันรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 4 และคว้าเงินรางวัลจากการแข่งขันในรายการดังกล่าวด้วย

นายชาตรี วัชรธาดา อายุ 22 ปี หรือน้องต๊อด เจ้าของโพสต์ เปิดใจว่า ตนเป็นคนจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีพ่อกับแม่เป็นชาวไทใหญ่ย้ายเข้ามาประเทศไทยได้ 10 ปีแล้วก็มีลูกด้วยกัน 5 คนตนเป็นคนที่ 3 สำหรับการพิการนั้นตนพิการมาตั้งแต่เกิดไม่มีอวัยวะช่วงล่าง และมือข้างขวามีเพียง 3 นิ้วเท่านั้น ทุกวันนี้อาศัยอยู่กับน้องชายฝาแฝด ที่หอพักแห่งนี้ด้วยกัน 3 คน ส่วนพี่ชายและพี่สาวได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนคุณแม่ก็อาศัยอยู่ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ตนก็ยังไปช่วยคุณแม่ขายของเป็นประจำและที่ตัดสินใจเรียนเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ก็เพราะว่าตนมองว่าเป็นความท้าทายและมีความชอบรถอยู่แล้วตนมีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ แต่ตนอยากจะก้าวข้ามขีดความสามารถและเพื่อเป็นอาชีพหาเลี้ยงตนเองในอนาคต ถ้าถามว่าทำได้หรือไม่ ตอบเลยว่าทำได้แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับคนที่มีร่างกายสมประกอบ แต่ก็จะพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

นายชาตรี บอกต่ออีกว่า เรื่องที่ได้ไปโพสต์หาที่ฝึกงานก็เพราะว่า อาจมีพี่ๆ ที่ให้โอกาสได้ฝึกงานได้ร่วมงานกันจริงๆ ถ้าจะให้ไปหาตามหน้าร้าน ตนเองไม่ค่อยกล้าเพราะกลัวว่า หากทางร้านเห็นตนเองเป็นคนพิการ อาจกลัวตนเองทำไม่ได้ จึงได้มาลองโพสต์ออกไป ส่วนกระแสตอบรับ ตนเองก็ตกใจ เพราะมีคนมาให้กำลังใจ รวมถึงพี่ๆในต่างจังหวัดมาชวนไปทำงานด้วย และอยากให้โอกาสกับตนเอง สำหรับในจ.เชียงใหม่เอง ก็มีติดต่อมาเยอะเหมือนกันที่อยากจะให้ไปลองฝึกงานกับทางร้านซึ่งในตอนนี้อยากได้ร้านที่เขาเอาจริงเอาจังกับการทำงานของตนเองให้ลงมือทำปฏิบัติจริงๆ ไม่ใช่เพียงเพราะเพียงแค่ว่าสงสาร เพราะตนเองเต็มใจที่จะลงไปคลุกคลีกับรถ อยากจะลงเปื้อนกับงานที่ตนเองอยากทำ อยากให้เขาเปิดโอกาสให้เต็มที่ อย่าพึ่งตัดสินว่าตนเองทำไม่ได้ ไม่ใช่ให้ไปนั่งเฉยๆแล้วผ่าน ตนต้องการจะได้ประสบการณ์จริงๆ ไม่ใช่เพราะสงสารแล้วให้ตนอยู่เฉยๆแล้วผ่าน ตนอยากใช้ความสามารถพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็นส่วนในเรื่องของการวางแผนชีวิตของตนเองในอนาคต ก็อยากมีร้านเป็นของตัวเอง เพื่อใช้วิชาที่เรียนมาหาเลี้ยงชีพให้กับตนเอง อยากจะฝากถึงผู้ที่พิการเหมือนกัน ว่าต้องมีกำลังใจและเราก็มองว่าเราทำได้ อย่ามองว่าเราทำไม่ได้ เราต้องลองทำก่อน เพราะการลองทำก่อนเป็นสิ่งที่ไม่ผิด ถ้าพลาดเรายังเริ่มต้นใหม่ได้ ไม่ว่าปัญหาจะใหญ่แค่ไหน ถ้ากำลังใจเราดี ใจเราสู้ เราก็จะข้ามผ่านมันได้ต่อไป

นายบัญชา อุงคุนา อาจารย์ที่ปรึกษา ให้ข้อมูลว่า น้องต๊อดเรียนอยู่สาขาวิชาช่างยนต์ ปวช.2 เป็นหลักสูตรทวิภาคีที่จะใช้เวลาเรียนหนึ่งปีครึ่งและฝึกงานอีกหนึ่งปีครึ่ง ซึ่งการฝึกงานมีความจำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ โดยน้องต๊อดและเพื่อนๆ จะต้องเริ่มฝึกงานปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ก่อนหน้านี้น้องต๊อดและทางวิทยาลัยได้ติดต่อไปยังสถานประกอบการหลายแห่ง เกือบทั้งหมดบอกว่าเห็นใจ แต่สุดท้ายก็ได้รับการปฏิเสธ

โดยสถานประกอบการระบุถึงเหตุผลด้านความปลอดภัย ทั้งการเดินทางไปฝึกงานและความปลอดภัยในสถานประกอบการ เพราะหลายแห่งอ้างว่าไม่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับผู้พิการได้และถึงแม้จะไม่มีสถานประกอบการรับเข้าฝึกงาน แต่ทางวิทยาลัยก็เปิดให้น้องต๊อดฝึกงานตามหลักสูตรภายในมหาวิทยาลัยได้ แต่น้องต๊อดก็มีความต้องการที่จะออกไปฝึกงานข้างนอกเพื่อหาประสบการณ์ โดยหลังจากที่ได้โพสต์ออกไป ปรากกฏว่ามีสถานประกอบการหลายแห่งยินดีรับน้องเข้าฝึกงาน แต่อย่างไรก็ตามทางวิทยาลัยจะต้องตรวจสอบและคัดกรองสถานประกอบการเพื่อให้เหมาะสมกับน้องต๊อดและที่ผ่านมาแม้จะพิการทางร่างกาย แต่มีจิตใจนักสู้ ที่ผ่านมามีความขยันมุ่งมั่น เรียนรู้ในสาขาวิชาจนมีความรู้ความสามารถไม่แพ้กับคนปกติ ทุกคนทั้งครูอาจารย์และเพื่อนๆ ชื่นชมและยกย่องในความพยายามและจะให้การดูและสนับสนุนอย่างเต็มที่จนจบหลักสูตร