วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

(มีคลิป) ชาวบ้าน และ นร.แม่ขุนปั๋ง พร้าว ไม่มีไฟฟ้าใช้ถาวรกว่า 50 ปี ต้องใช้แสงแดดหรือเทียนเรียนหนังสือ

Social Share

ชาวบ้าน และนักเรียน ในหมู่บ้านแม่ขุนปั๋ง อำเภอพร้าว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ ไม่มีไฟฟ้าใช้อย่างถาวรมากว่า 50 ปี ต้องอาศัยแสงแดด หรือจุดเทียนอ่านหนังสือ

1 ก.ย. 62 : ที่โรงเรียนบ้านแม่ขุนปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนสาขาของโรงเรียนบ้านแม่ปั๋ง ชาวบ้านในพื้นที่ มีประชากรรวมกันกว่า 300 – 400 คน และมีโรงเรียนที่มีเด็กเรียนหนังสืออยู่ 1 แห่ง ต้องประสบปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้มากกว่า 50 ปี

ด้าน นายศราวุฒิ บัวชุม อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนบ้านแม่ปั๋ง สาขาบ้านขุนปั๋ง เปิดเผยว่า โรงเรียนบ้านแม่ขุนปั๋งแห่งนี้มีนักเรียนเพียง 11 คน เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งมาเพราะหมู่บ้านอยู่ในถิ่นทุรกันดาร โดยระยะทางจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 2 ถึงโรงเรียนแห่งนี้ ระยะทางประมาณ 77.4 กิโลเมตร และระยะทางจากโรงเรียนบ้านแม่ปั๋งถึงโรงเรียนแม่ปั๋งสาขาบ้านขุนปั๋ง 15.9 กิโลเมตร ช่วงฤดูฝนก็เดินทางลำบากมาก ปัจจุบันสอนหนังสือตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ส่วนประชากรในพื้นที่ก็มีทั้งคนไทย ชาวเขากะเหรี่ยง ปกาเกอญอ อาศัยอยู่รวมกันแบ่งเป็นหมู่บ้านย่อยๆ 5 หย่อมบ้าน คือ ปางนอก, ปางวัด, ปางโล๊ะ, ปางใน และแม่สูน

สำหรับเรื่องของการใช้กระแสไฟฟ้านั้น ปัจจุบันหมู่บ้านได้ใช้ระบบไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เนื่องจากอยู่ในเขตป่าสวงนแห่งชาติและเขตภูเขาสูงจึงไม่มีไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประกอบกับส่วนฤดูแล้ง จะไม่มีน้ำในการผลิตกระแสไฟฟ้า ช่วงฤดูทำนาก็จะปิดไฟฟ้าเหมือนกันเนื่องจากชาวบ้านต้องใช้น้ำในการทำนาจึงเป็นปัญหาของการใช้ไฟฟ้า

การเรียนการสอนในพื้นที่หากฝนตกไม่สามารถที่จะให้นักเรียนออกไปนั่งอ่านหนังสือ หรือเรียนนอกห้องเรียนได้ ก็ต้องจุดเทียนเพื่อให้เด็กนักเรียนได้อ่านหนังสือ ได้เรียนกัน ก็ถือว่าได้รับผลกระทบอย่างหนัก ส่วนแผงโซลาเซลล์ที่ชาวบ้านได้มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ บางส่วนก็ชำรุดทรุดโทรมไปแล้ว และวันไหนมีฝนตกก็ไม่สามารถใช้การได้เช่นเดียวกันกับระบบไฟฟ้าพลังน้ำ

จึงอยากขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดำเนินการให้หมู่บ้านและโรงเรียนมีไฟฟ้าใช้ เพราะหมู่บ้านแห่งนี้อยู่กันมากกว่า 50 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ที่ถาวร ล่าสุดก็มีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาทำประชาคมในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ เพราะอยู่ในเขตพื้นที่ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติศรีลานนา

นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ได้เปิดเผยว่า โรงเรียนบ้านแม่ขุนปั๋ง และหย่อมบ้านที่ประชาชนอาศัยอยู่ ก็ยอมรับว่าเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกล และอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ป่า เมื่อก่อนมีการบุกรุก แต่จากการเข้าไปพูดคุยแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งมีอาชีพทำเมี่ยง ก็ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด ส่วนเรื่องของกระแสไฟฟ้านั้น เมื่อช่วงประมาณปลายกลางสิงหาคมที่ผ่านมาทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก็ได้เข้าไปทำประชาคมในพื้นที่แล้ว ซึ่งทางอุทยานฯ ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรและมีแนวทางความเป็นไปได้อยู่

ทั้งนี้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องทำหนังสือเข้ามาเพื่อเข้าร่วมกับอุทยานฯ ในการพัฒนาประโยชน์ในพื้นที่ เพราะมีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ อยู่ในพื้นที่และต้องการใช้ไฟฟ้าเช่นกัน ดังนั้น การเข้ามาติดตั้งเสาไฟฟ้า ก็ต้องมีการสำรวจว่าเป็นประโยชน์ต่อชุมชน ต่อหน่วยงานใดบ้าง และต้องเป็นประโยชน์ต่อการคุ้มครองพื้นที่ เพราะอยู่ในเขตพื้นที่ป่า

ดังนั้นต้องดูว่า หากเข้ามาติดตั้งเสาไฟฟ้าแล้ว จะติดตั้งอย่างไร ตัดต้นไม้ไปเท่าไหร่ แนวทางที่จะติดตั้งจะใช้สายไฟฟ้าแบบไหน เพราะทางอุทยานฯ ก็จะได้นำข้อมูลดังกล่าวมาศึกษาและเสนอต่อกรมอุทยานฯ เพื่อพิจารณา เนื่องจากผลกระทบที่ได้ต้องดูว่าเป็นอย่างไร หากใช้สายไฟแบบเปลือย เมื่อเกิดฝนตกแล้วจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและเกิดไฟป่าหรือไม่ หรือควรติดตั้งอย่างไรให้ปลอดภัยกับป่าด้วย และทั้ง 5 หย่อมบ้านที่ได้รับผลกระทบเรื่องไม่มีไฟฟ้านั้น ที่ผ่านมา ก็ยังได้ช่วยดูแล เฝ้าระวังเรื่องของไฟป่าในพื้นที่ด้วย ซึ่งทางอุทยานฯ ก็รอเพียงเอกสารความร่วมมือจากทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และนำเสนอต่อกรมอุทยานฯ เพื่อพิจารณาต่อไป