วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

แคมเบียม เน็ตเวิร์ค เตรียมสาธิตโซลูชันบรอดแบนด์ไร้สายรุ่นใหม่ ที่งาน Wireless ISP Conference ในราคาเอื้อมถึง

30 ก.ย. 2018
802
Social Share

Cambium Networks Logo (PRNewsFoto/Cambium Networks)

โรลลิ่ง เมโดวส์, อิลลินอยส์ 20 ก.ย. 61 : แคมเบียม เน็ตเวิร์ค (Cambium Networks) ผู้ให้บริการโซลูชั่นเครือข่ายไร้สายชั้นนำของโลก ประกาศเปิดตัวโซลูชันเชื่อมต่อบรอดแบนด์ไร้สายรุ่นใหม่ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตให้แก่บรรดาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wireless ISPs) โดยจะมีการสาธิตโซลูชันแต่ละรุ่นที่งานประชุมและงานแสดงสินค้า ประจำปี Wireless Internet Service Provider Association (WISPA) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 ตุลาคมนี้ ในลาสเวกัส

“โครงสร้างแบบไร้สายในโซลูชั่นเชื่อมต่อของเราทำให้การขยายเครือข่ายเป็นเรื่องง่าย ราคาไม่แพง และเชื่อถือได้สำหรับ Wireless ISPs” อาตุล บาตนาการ์ ประธานและซีอีโอของแคมเบียม เน็ตเวิร์ค กล่าว “โซลูชันของเราช่วยให้ WISPs สามารถให้บริการเชื่อมต่อแก่ลูกค้าทั้งภาคธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไปได้ในราคาที่คุ้มทุน สำหรับปีนี้เรากำลังจะเปิดตัวโซลูชั่นใหม่อย่าง cnRanger? Fixed LTE และโซลูชั่นกระจายสัญญาณแบบจุดต่อหลายจุด ePMP 3000 Multi-User MIMO (MU-MIMO)

รวมไปถึงโซลูชั่นสนับสนุนบริการ Citizens Broadband Radio Service (CBRS) ของ FCC โดยใช้เทคโนโลยี shared access spectrum (SAS) ที่ยึดเหนี่ยวโดยแพลตฟอร์ม 3 GHz PMP 450m แพลตฟอร์มนี้ใช้เทคโนโลยี cnMedusa ที่แคมเบียม เน็ตเวิร์คได้คิดค้นขึ้น เพื่อมอบขีดความสามารถด้าน Massive MU-MIMO ซึ่งช่วยให้การติดตั้งวางเครือข่ายหนาแน่นขึ้น จึงรองรับการใช้งานได้มากขึ้นถึง 3 เท่า โซลูชั่นทั้งสามตัวนี้จะทำให้ WISPs มีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทางธุรกิจได้ดีที่สุด”

“โซลูชันการเชื่อมต่อแบบ Intelligent Edge รุ่นใหม่เหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้งวางเครือข่าย และเพิ่มความยืดหยุ่นของเครือข่ายโดยรวม ขณะเดียวกันยังเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผู้ให้บริการและผู้ประกอบการเครือข่ายอีกด้วย นอกจากนี้ Intelligence Edge ยังช่วยขยายขอบเขตของบริการแก่ลูกค้าในระยะทางที่ไกลขึ้น และด้วยความเร็วที่มากขึ้น” สกอตต์ อิมฮอฟฟ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดและการจัดการผลิตภัณฑ์ กล่าว “โซลูชันเหล่านี้ช่วยให้การเข้าถึงอุปกรณ์ เซ็นเซอร์ และตัวควบคุมต่าง ๆ ผ่านคลาวด์นั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วแบบไฮสปีด แม้ในเขตเมืองที่มีความหนาแน่น และในพื้นที่ห่างไกล”

โซลูชันการเชื่อมต่อที่จะมีการสาธิตภายในงาน ประกอบด้วย

•โซลูชั่นกระจายสัญญาณแบบจุดต่อหลายจุดรุ่นใหม่ ePMP 3000 Wireless ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยี MU-MIMO รองรับทรูพุตสูงสุด 1.2 Gbps ในย่านความถี่ 4.910-5.970 GHz
•cnRanger Fixed LTE รุ่นใหม่ ทำงานในสเปกตรัม 2.3 และ 2.5 GHz, แบนด์ 38, 40 และ 41; เพิ่มช่วงสัญญาณและความครอบคลุมของสัญญาณได้อย่างมาก ขณะที่ลดต้นทุนและความซับซ้อนที่พบได้ทั่วไปบนเครือข่าย LTE
PMP 450m รุ่นใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยี cnMedusa Massive MU-MIMO ซึ่งใช้ได้ในย่านความถี่ 3 GHz ที่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยระบบ PMP 450i ที่รองรับการใช้งานได้เพิ่มขึ้นสามเท่า
•โซลูชันใหม่ Citizens Broadband Radio Service (CBRS) รองรับการทำงานร่วมกับบริการ Shared Access Spectrum (SAS) ผ่านทางแพลตฟอร์ม PMP 450
•โครงข่ายไร้สายและระบบ microwave links ที่ได้รับอนุญาต ซึ่งรวมถึง PTP 550 ที่ให้ทรูพุต 1.4 Gbps ด้วยการจับสัญญาณหลายคลื่นพร้อมกันแบบแยกและไม่สมมาตร (non-adjacent asymmetric channel aggregation)
•การกระจายสัญญาณ 802.11ac Wi-Fi ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ด้วยอุปกรณ์ cnPIlot และ e430 แบบติดผนัง ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานในอาคารที่พักอาศัยรวมหรืออาคารชุด และรุ่น e700 สำหรับการกระจายสัญญาณ 802.11ac Wave 2 ภายนอกอาคาร
•การจัดการการเชื่อมต่อแบบเบ็ดเสร็จบนคลาวด์ ด้วยระบบ cnMaestro

สำหรับกิจกรรมของแคมเบียม เน็ตเวิร์ค ที่งาน WISPAPALOOZA ประกอบด้วย
•การอบรม Technical Certification
•6-8 ต.ค. – PTP 820 Licensed Microwave Installation and Administration
•7-8 ต.ค. – PMP 450 Certification Training
•งาน Open House Event วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม
•บูธจัดแสดงหมายเลข #635 วันที่ 9-11 ต.ค.

เกี่ยวกับแคมเบียม เน็ตเวิร์ค คือผู้ให้บริการโซลูชั่นการเชื่อมต่อไร้สายชั้นนำระดับโลกที่เชื่อมโยงผู้คน สถานที่ และสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน บริษัทมีความชำนาญในการให้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์ไร้สายครบวงจรที่เชื่อถือได้ ยืดหยุ่น และปลอดภัยภายใต้สภาวการณ์ที่กดดัน ช่วยให้ผู้ให้บริการรวมถึงผู้ประกอบการเครือข่ายทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคเอกชน และภาครัฐ สามารถสร้างเครือข่ายการเชื่อมต่อ Intelligent Edge นอกจากนี้ ทีมงานของบริษัทยังทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง แคมเบียม เน็ตเวิร์ค มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ชิคาโก นอกจากนั้นยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และอินเดีย และจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกที่เชื่อถือได้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cambiumnetworks.com

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ไมโครชิพ ช่วยนักพัฒนาเร่งการออกแบบโหนด IoT ระยะไกล ด้วยผลิตภัณฑ์ตระกูล LoRa(R) System-in-Package ที่ใช้พลังงานต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม
Infineon เปิดตัวชุดซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สสำหรับ TPM 2.0 เพิ่มความปลอดภัยการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมและยานยนต์
“MI SHOP by แม่วังสื่อสาร” เปิดแล้ววันนี้ ที่เซ็นทรัล แอร์พอร์ต
“วิศวกรรมแห่งชาติ 2561” ร่วมโชว์นวัตกรรมวิศวกรรม เพื่อให้คนไทยก้าวทันเทคโนโลยีและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้เกิดแก่สังคมไทย
วสท. เปิดงาน ‘วิศวกรรมแห่งชาติ 2018’ อย่างยิ่งใหญ่
ไซปรัสจับมือ VeChain Foundation และ CREAM พัฒนาฟินเทคและบล็อกเชนในไซปรัส