(คลิป) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สั่งกัก 14 วันนักท่องเที่ยวทุกคนที่เข้ามาเชียงใหม่ ป้องกันโควิด-19

Social Share

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพิ่มมาตรการให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ทุกช่องทางต้องถูกคุมตัวไว้สังเกตอาการ 14 วัน พร้อมเตรียม 3 โรงแรมรองรับต่างชาติกักตัว

2 เมษายน 2563 : นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาติดตามการปฏิบัติงานคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยมีนายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมผู้บริหาร และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน EOC ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สรุปปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติ หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำสั่งที่ 6/2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มเติม กรณีการคัดกรองชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และคนไทยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 1 เมษายน 2563 โดยมีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับท่าอากาศยานเชียงใหม่ คือ

  1. ให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในทุกช่องทางต้องถูกคุมตัวไว้สังเกตอาการ ณ สถานที่ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่กำหนด จำนวน 14 วัน เพื่อตรวจและทำการสอบสวนทางการแพทย์ เว้นแต่ชาวต่างชาตินั้นจะมีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง ให้กักตนเองในที่พำนักหรือที่พัก โดยให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเป็นผู้กำกับการปฏิบัติ
  2. ให้คนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จากกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดภูเก็ต ที่เดินทางมาถึงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ กักตนเองในที่พำนักหรือที่พักอย่างเคร่งครัดเป็นระยะเวลา 14 วัน และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด โดยให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยปฏิบัติการโรคติดต่อที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จัดตั้งขึ้น (CDCU) หรืออาสาสมัครที่ปฏิบัติงานให้แก่ทางราชการ ตรวจสอบการเฝ้าระวังการกักตนเองและให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องได้

ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ในส่วนของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ปัจจุบันมีสายการบินที่ยังให้บริการในเที่ยวบินภายในประเทศ 4 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยสมายล์ สายการบินนกแอร์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ และสายการบินไทยเวียดเจ็ต

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการขอความร่วมมือให้ผู้ที่เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ กักตัวสังเกตุอาการเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งชาวต่างชาติ หรือบุคคลที่ไม่มีภูมิลำเนาที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางจังหวัดได้จัดสถานที่รองรับ 3 แห่ง คือที่ โรงแรมบีพีซีตี้ โรงแรมเมย์ฟราวเวอร์ และโรงแรมเดอะชารารีสอร์ท แอนด์สปา ทั้งหมดมีห้องพักที่สามารถรอบรับได้ 40 ห้อง ส่วนประชาชนที่มีภูมิลำเนาที่เชียงใหม่ สามารถกักตัวที่บ้าน โดยมีคณะทำงานหมู่บ้านเป็นผู้ดูแล

ทั้งนี้หลังมีคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อมีผลบังคับใช้ พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสจำนวน 1 ราย ที่เดินทางมากับสายการบินไทยสมายส์ เที่ยว WE 110 เมื่อเวลา 14.30 น. ไม่ยินยอมปฏิบัติตามคณะกรรมการโรคติดต่อฯ เจ้าหน้าที่ ตม. จึงช่วยเหลือโดยจองเที่ยวบินกลับไปในเส้นทางที่ผู้โดยสารคนดังกล่าวต้องการ สำหรับมาตรการนี้จะรวมไปถึงการเดินทางทุกประเภท ทั้งทางรถไฟ รถโดยสาร และรถยนต์ส่วนตัว ที่มีการตั้งด่าน 6 เส้นทางหลักที่เข้ามาสู่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีการตรวจสอบประวัติ และระบบติดตามตัวเพื่อควบคุมการกักตัว

นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้มีสายการบินเข้ามายังท่าอากาศยานเชียงใหม่ 4 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยสมายล์ สายการบินนกแอร์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และสายการบินไทยเวียดเจ็ต แต่ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน สายการบินบางกอกเเอร์เวย์ส จะหยุดทำการบินชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

TRAVEL ADVISORY : Effective immediately, ALL passengers traveling to Chiang Mai (by any mode of transportation – air, road, and rail) will be quarantined for 14 days :

  • Foreign passport holders will be quarantined in designated places for 14 days unless proofs of their own residences are provided.
  • Thai nationals who travel from Bangkok Metropolitan Region, Yala, Pattani, Narathiwat and Phuket will be self-quarantined in their own residences for 14 days
    The violation of the quarantine will result in imprisonment for up to 1 year or a fine of up 100,000 baht or both.